ฟิลเลอร์แก้มส้ม

ช่วยให้ใบหน้าดูมีมิติ ลดปัญหาใบหน้าดูหย่อนคล้อย และช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ ดูเด็กลง ใบหน้าดูสวยหวาน
ฟิลเลอร์แก้มส้ม
ระยะเวลาการรักษา
30 - 60 นาที
เวลาพักฟื้น
ไม่มี
ระยะเวลาของผลลัพธ์
24 เดือน
ราคา
เริ่มที่ 13000 บาท

ฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม คืออะไร ? ควรฉีดตรงไหน ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง?

แก้มอวยอิ่มเปล่งปลั่งเป็นสัญลักษณ์ของความดูเด็กและความอ่อนเยาว์ สังเกตได้จากเด็กสาวรุ่น ๆ จะมีพวงแก้มที่ดูเปล่งปลั่งสดใสกว่าวัยอื่น ๆ แต่เมื่ออายุมากขึ้น ผิวหนังเริ่มหย่อนคล้อย แก้มส้มก็เริ่มหายไป การฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มได้กลายมาเป็นนวัตกรรมใหม่ที่กำลังกลายเป็นที่นิยมในขณะนี้

แก้มส้มคืออะไร อยู่บริเวณไหนของใบหน้า

แก้มส้ม คือ บริเวณหน้าแก้มที่เป็นชื่อเรียกของพวงแก้มที่มีลักษณะคล้ายลูกส้ม แก้มส้มอยู่บริเวณใต้ตากับแก้ม และบริเวณโหนกแก้มกับจมูก บริเวณนี้จะมีความโค้งนูนคล้ายผลส้ม เมื่อมองจากด้านข้างจะเห็นเป็นรูปตัว S ที่ด้านข้างของใบหน้า การมีแก้มส้มจะทำให้ใบหน้าดูมีมิติ ไม่หย่อนคล้อย และทำให้ดูอ่อนเยาว์

ฉีดแก้มส้มช่วยอะไรบ้าง?

การฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มเป็นวิธีที่ช่วยให้ใบหน้าดูมีมิติ ลดปัญหาใบหน้าดูหย่อนคล้อย และช่วยให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ ดูเด็กลงได้ การฉีดแก้มส้มจะช่วยให้ใบหน้าดูสวยหวานขึ้น นอกจากนี้ การมีแก้มส้มยังเป็นการช่วยเสริมโหงวเฮ้งตามความเชื่อต่าง ๆ อีกด้วย โดยแก้มส้มนั้นเป็นไปตามหลักโหงวเฮ้งใบหน้าแบบ Triangle of Youth ที่ใบหน้าจะถูกแบ่งออกเป็นสามเหลี่ยมหัวคว่ำ เมื่ออายุเพิ่มขึ้นใบหน้าจะกลับเป็นสามเหลี่ยมหัวตั้ง เนื่องจากสัดส่วนของโหนกแก้มและคางเปลี่ยนแปลง ผิวหนังหย่อนคล้อยลงตามแรงโน้มถ่วง โดยเฉพาะบริเวณแก้ม การฉีดฟิลเลอร์เพื่อปรับรูปหน้าจึงเป็นการช่วยเสริมโหงวเฮ้งให้ได้รูปร่างที่สวยงามและเยาว์วัย ให้ใบหน้ากลับมาเป็นสามเหลี่ยมหัวคว่ำอีกครั้ง หากต้องการลักษณะใบหน้าให้ตรงตามหลักโหงวเฮ้งนี้ สามารถฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มเพื่อเพิ่มโหนกแก้มได้

ฉีดแก้มส้มที่จุดไหนได้บ้าง?

การฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มนั้นถือว่าเป็นกระบวนการที่เป็นการใช้การเติมฟิลเลอร์เข้าไปในบริเวณกลางหน้าหรือพวงแก้ม (Midface Filler) เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวข้องกับการยุบตัวของกระดูก กล้ามเนื้อ และไขมัน ที่ส่งผลให้ผิวหนังหย่อนคล้อย โดยการฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มจะที่จุดต่าง ๆ คือ โหนกแก้ม แก้มด้านบน ร่องน้ำตา ร่องแก้ม ร่องมุมปาก ข้างคาง ด้านหน้าของใบหู และพวงแก้ม

การฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มทำได้โดยการประเมินปัญหาของแต่ละคนและเลือกฉีดในจุดที่เหมาะสม ไม่จำเป็นต้องฉีดครบทุกจุดทั้ง 8 จุด ผลลัพธ์หลังการฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มจะให้ผลที่คล้ายกับการวางผลส้มลงบนใบหน้า ทำให้ใบหน้าดูมีมิติ ไม่แบนราบ และทำให้ใบหน้าดูเด็กมากยิ่งขึ้น

มีแก้มส้มดียังไง ช่วยเสริมโหงวเฮ้งได้จริงไหม?

ตามหลักโหงวเฮ้งของชาวจีนแล้วนั้น ชาวจีนเชื่อว่าถ้าแก้มมีลักษณะกลม ๆ เหมือนลูกส้ม ดูอวบอิ่มเต็มสวย ไม่มีร่องริ้วรอย และมีเนื้อแก้มเยอะ ถือเป็นลักษณะของคนที่มีวาสนาดี ตามความเชื่อนี้ คนที่มีลักษณะแก้มส้มดังกล่าวเมื่อหยิบจับอะไรก็จะกลายเป็นเงินเป็นทอง การงานจะไม่ติดขัด และเงินทองจะไหลมาอย่างสม่ำเสมอ 

สำหรับคนที่มีหน้าแก้มแบน ร่องแก้มลึก และโหนกแก้มยุบตัว อาจทำให้ใบหน้าดูไม่มีมิติและไม่ถูกหลักโหงวเฮ้ง โดยลักษณะเหล่านี้เป็นลักษณะของคนที่ไม่มีวาสนา มีปัญหาในด้านการเงิน และอาจมีความยากลำบากในการดำเนินชีวิต

ดังนั้น สำหรับผู้ที่ต้องการเสริมโหงวเฮ้งและต้องการให้ใบหน้ามีมิติมากขึ้น จะแนะนำให้เลือกฟิลเลอร์แก้มส้ม เมื่อใช้ฟิลเลอร์แก้มส้มอย่างถูกต้อง จะช่วยปรับรูปหน้า และช่วยเสริมโหงวเฮ้งให้ดีขึ้นได้

ใครที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม?

ฟิลเลอร์แก้มส้มเป็นการเติมสารเติมเต็มประเภทไฮราลูโรนิคเข้าไปเพื่อเพิ่มปริมาณแก้มและปรับรูปหน้าให้มีลักษณะเหมือนลูกส้มที่ดูเต่งตึงและโดดเด่น การใช้ฟิลเลอร์แก้มส้มไม่ได้จำกัดเฉพาะเพศใดเพศหนึ่ง สามารถทำได้ทั้งเพศหญิงและเพศชาย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการแก้ไขปัญหาใบหน้ามีลักษณะแก้มแบน แก้มตอบ แก้มยุบ ปัญหาผิวหย่อนคล้อย เกิดร่องลึกใต้ตา และปัญหาร่องแก้ม การฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มจะช่วยเติมเต็มให้กับส่วนบนของแก้ม ทำให้แก้มยกกระชับ ดูมีมิติมากขึ้น และเพิ่มความอิ่มเอิบให้ใบหน้า

การฉีดฟิลเลอร์เพื่อแก้ไขแก้มส้มเป็นการฉีดเพื่อทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ลงและช่วยเติมเต็มรูปร่างใบหน้าให้ดูมีมิติมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยแก้ไขปัญหาบริเวณใบหน้าอื่น ๆ จึงเหมาะกับ

  • ผู้ที่มีโหนกแก้มแบนหรือโหนกแก้มสูงมาก
  • ผู้ที่มีปัญหาแก้มตอบ แก้มยุบ หรือแก้มหย่อน
  • ผู้ที่มีปัญหาร่องลึกใต้ตาหรือร่องน้ำตา
  • ผู้ที่มีปัญหาผิวหน้าหย่อนคล้อย
  • ผู้ที่ต้องการปรับรูปหน้าให้ใบหน้ามีมิติมากขึ้น
  • ผู้ที่มีปัญหาใบหน้าดูโทรม ไม่สดใส หรือดูแก่กว่าวัย
  • ผู้ที่ต้องการเติมเต็มใบหน้าให้ดูอิ่มเอิบมากขึ้น
  • ผู้ที่ต้องการเสริมโหงวเฮ้งให้ดูดีขึ้น

ฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มยังไงให้ดูธรรมชาติ ควรใช้กี่ cc

โดยปกติทั่วไปแล้ว การฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มสามารถใช้เป็นทางเลือกเพื่อแก้ไขปัญหารูปหน้าหรือปรับโหงวเฮ้งรูปหน้าได้ การฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มจะใช้ปริมาณประมาณ 1-2 ซีซี โดยแพทย์จะเป็นผู้ทำการประเมินปัญหาและความต้องการของแต่ละบุคคลในการใช้ฟิลเลอร์แก้มส้มอย่างเหมาะสม

ในบางกรณี การฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มบริเวณเดียวอาจไม่เพียงพอต่อการแก้ไขปัญหาทั้งหมด จึงจำเป็นต้องเสริมด้วยฟิลเลอร์ในบริเวณอื่น ๆ เช่น ฟิลเลอร์ใต้ตา ฟิลเลอร์แก้มตอบ หรือฟิลเลอร์ร่องแก้มเพื่อเพิ่มมิติให้กับช่วงหน้าแก้ม (Midface) และให้ใบหน้าดูสวยและเป็นธรรมชาติตามความต้องการ

ฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มเลือกยี่ห้อไหนดี?

การฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มเป็นวิธีการปรับรูปหน้าให้ดูอวบอิ่มและมีมิติมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการปรับโหงวเฮ้งให้ดียิ่งขึ้น การฉีดฟิลเลอร์มีหลายยี่ห้อที่ใช้กันบ่อย เช่น Juvederm Voluma, Restylane Lyft, Restylane Defyne, Restylane Volyme, Neuramis Deep, และ Neuramis Volume ซึ่งแต่ละยี่ห้อมีคุณสมบัติที่แตกต่างกัน

  • Belotero Volume เป็นฟิลเลอร์ที่มีเนื้อสัมผัสแข็ง เหมาะสำหรับการฉีดเพื่อเสริมในจุดที่หายไป โดยเฉพาะบริเวณของกระดูกต่างๆ อาทิเช่น กระดูกหน้าแก้ม ขมับ หรือคาง เพื่อปรับรูปหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ
  • Juvederm Voluma เป็นฟิลเลอร์ที่มีเนื้อสัมผัสเป็นเนื้อเจลแข็งแต่กลืนกับผิวได้ดี เหมาะสำหรับการยกกระชับและเติมเต็มช่วงหน้าแก้มให้ดูสวยและดูเป็นธรรมชาติ
  • Restylane Lyft เนื้อฟิลเลอร์มีลักษณะเป็นเนื้อเจลแข็ง ช่วยยกกระชับแก้มได้ดี และมีคุณสมบัติในการสร้างมิติให้ใบหน้าดูพุ่งสวยและมีมิติ
  • Restylane Defyne เนื้อฟิลเลอร์มีลักษณะเป็นเนื้อเจล มีความแข็งปานกลาง ใช้เทคโนโลยีที่ช่วยให้เนื้อฟิลเลอร์กลืนไปกับผิวได้ดี ไม่จับตัวเป็นก้อน และมีความสามารถในการยกกระชับผิวที่หย่อนคล้อยได้อีกด้วย
  • Restylane Volyme เนื้อฟิลเลอร์มีลักษณะเป็นเนื้อเจลแข็งปานกลาง ช่วยเพิ่มความอวบอิ่มให้กับแก้ม และมีคุณสมบัติในการสร้างมิติให้กับใบหน้า
  • Neuramis Deep เนื้อฟิลเลอร์มีลักษณะเป็นเนื้อเจลแข็ง มุมคล้อยไว้สำหรับฉีดบริเวณแก้มส้ม เพื่อให้ช่วงหน้าแก้มดูเต็มขึ้นและมีมิติมากขึ้น
  • Neuramis Volume เนื้อฟิลเลอร์มีลักษณะเป็นเนื้อเจลมีความแข็ง แต่กลืนกับผิวได้ดี เหมาะสำหรับเติมเต็มร่องลึกและช่วยยกกระชับผิวบริเวณแก้มส้มได้

แพทย์จะแนะนำฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับแต่ละเคสและลักษณะปัญหา รวมไปถึงพิจารณาความต้องการของผู้เข้ารับบริการเป็นหลัก

ฉีดแก้มส้มอันตรายไหม?

การฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มเพื่อเติมเต็มให้ใบหน้าดูอวบอิ่มและมีมิติเป็นกระบวนการที่ควรให้ความสำคัญต่อความปลอดภัย ดังนั้น จึงควรเลือกคลินิกที่มีความน่าเชื่อถือและให้บริการอย่างมีมาตรฐาน

คลินิกที่น่าเชื่อถือจะมีการตรวจสอบฟิลเลอร์ที่ใช้ว่าเป็นของแท้หรือไม่ และสามารถขอดูการแกะกล่องฟิลเลอร์และการผสมยาได้ การใช้บริการคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐานอาจเสี่ยงให้เจอฟิลเลอร์ของปลอม ซึ่งอาจทำให้เกิดความเสี่ยงหรือการแพ้ฟิลเลอร์ได้

สำหรับผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัยที่สุดในการฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม แนะนำให้ปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในการดูแลผิวหน้าและใช้ฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพและมาตรฐานสูง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ธรรมชาติและปลอดภัยที่สุด

ข้อควรปฏิบัติก่อน-หลังฉีดแก้มส้ม

การปฏิบัติตัวก่อนและหลังการฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดผลข้างเคียงหรือภาวะแทรกซ้อน และให้ผลลัพธ์ที่ดีและมีประสิทธิภาพสูงสุด นอกจากนี้ยังช่วยยืดอายุของฟิลเลอร์แก้มส้มไม่ให้สลายเร็วอีกด้วย

คำแนะนำก่อนฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม

  • งดยาแอสไพริน (NSAIDs) เช่น Ibuprofen, Diclofenac, Ponstan.
  • งดการทานวิตามินบางอย่างที่ไปทำให้ลือดแข็งตัวช้า เพราะอาจเสี่ยงต่ออาการช้ำหลังฉีดได้
  • งดการใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยในเรื่องของการผลัดเซลล์ผิว เช่น Retinoids, Retinol, Glycolic Acid ประมาณ 3 วันก่อนฉีดฟิลเลอร์บริเวณแก้มส้ม
  • งดการขัดผิว และการโกนขนในบริเวณที่จะฉีดก่อนการฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม
  • หากมีโรคประจำตัวหรือรับประทานยาอื่น ๆ ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม
  • งดการนวดหน้าหรือเลเซอร์ใด ๆ ก่อนการฉีดฟิลเลอร์อย่างน้อย 3 วัน

คำแนะนำการปฏิบัติตัว 24 ชั่วโมงก่อนการฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม

  • ควรงดการดื่มแอลกอฮอล์ 24 ชั่วโมงก่อนทำการฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม
  • ควรงดกิจกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด เช่น การออกกำลังกายอย่างหนักและการเข้าห้องซาวน่า

คำแนะนำการปฏิบัติตัวหลังฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม

  • สามารถประคบเย็นบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มได้ แต่ไม่ควรกดทับแรง
  • หลังจากฉีดฟิลเลอร์ 24 ชั่วโมงอาจมีอาการปวด สามารถทานยาแก้ปวดพาราเซตามอลได้
  • ไม่ควรนอนตะแคงใน 2-3 คืนแรกหลังฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม เพื่อป้องกันการกดทับบริเวณที่ฉีดฟิลเลอร์
  • ควรนอนในห้องที่มีอุณหภูมิประมาณ 18-23 องศาเซลเซียส ไม่ควรอยู่ในที่ร้อน ๆ
  • งดดื่มแอลกอฮอล์อย่างน้อย 2-3 วันหลังจากฉีดฟิลเลอร์
  • ควรเลือกรับประทานอาหารที่ไม่จัดมากจนเกินไปและควรงดอาหารดิบเพื่อป้องกันการติดเชื้อ

การปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์หลังฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มจะช่วยลดอาการปวด อาการบวมแดงหลังฉีดฟิลเลอร์ อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษากับแพทย์และควรปฏิบัติตามคำแนะนำการปฏิบัติตัวก่อนและหลังการฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดและลดความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อน

ฉีดแก้มส้มราคาเท่าไร?

ราคาของการฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มต่อ 1 ซีซี (cc) นั้นมีความแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับแต่ละคลินิกรวมไปถึงยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ โดยราคาในการฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มโดยประมาณจะอยู่ที่

  • Belotero Volume : 13,000-16,000
  • Filler Juvederm Voluma: 18,000-20,000 บาท
  • Filler Restylane Lyft: 18,000-20,000 บาท
  • Filler Restylane Defyne: 10,000-20,000 บาท
  • Filler Restylane Volyme: 10,000-20,000 บาท
  • Filler Neuramis Deep: 5,000-10,000 บาท
  • Filler Neuramis Volume: 5,000-10,000 บาท

ค่าใช้จ่ายของการฉีดฟิลเลอร์แก้มส้มจะขึ้นอยู่กับยี่ห้อของฟิลเลอร์ที่เลือกใช้และปริมาณฟิลเลอร์ที่จำเป็นต้องใช้สำหรับแก้ไขปัญหาบริเวณแก้มส้มของแต่ละบุคคล แพทย์จะทำการประเมินและแนะนำปริมาณฟิลเลอร์ที่เหมาะสมในกรณีของแต่ละบุคคล

สรุป เคล็ดลับฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม และทำไมจึงต้องฉีดที่ Skinserity

สำหรับใครก็ตามที่กำลังสนใจการฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม สิ่งสำคัญคือการเลือกคลินิกที่มีมาตรฐานและน่าเชื่อถือ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย นอกจากนี้ ควรตรวจสอบว่าฟิลเลอร์ที่ใช้เป็นฟิลเลอร์แท้และมีคุณภาพมาตรฐาน อีกทั้งยังควรเลือกแพทย์ที่มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญในการใช้ฟิลเลอร์แก้มส้ม แพทย์ที่มีประสบการณ์จะสามารถวิเคราะห์ใบหน้าและแนะนำวิธีการแก้ไขปัญหาได้อย่างแม่นยำ ซึ่งจะช่วยให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงกับความต้องการและเป็นที่น่าพึงพอใจ ดังนั้น ควรใช้เวลาในการค้นหาข้อมูลเพื่อทำความเข้าใจและตัดสินใจอย่างรอบคอบก่อนการเลือกคลินิกและแพทย์ที่จะให้บรอการฉีดฟิลเลอร์แก้มส้ม

และที่คิลนิก Skinserity ที่นี่ให้บริการอย่างมีมาตรฐานและปลอดภัย ด้วยแพทย์ที่มีความชำนาญและมากไปด้วยประสบการณ์ ใช้ฟิลเลอร์แท้ที่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา จึงมั่นใจได้ว่าฟิลเลอร์นั้นจะมอบผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยในทุก ๆ ขั้นตอน

ขั้นตอนการรักษา

Consultation

วางแผนการรักษาส่วนตัวของคุณกับผู้เชี่ยวชาญของเรา

Treatment
  • ทำความสะอาดผิวของคุณ
  • ทำเครื่องหมายบริเวณการรักษาของคุณ
  • เลือกผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์อย่างระมัดระวัง
  • การฉีดฟิลเลอร์
After treatment care
  • การดูแลหลังการส่วนตัวจากผู้เชี่ยวชาญของเรา
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือนวดบริเวณที่ฉีด
  • รับประทานยาตามที่กำหนด (ถ้ามี)
  • หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่เข้มข้นภายใน 24 ชั่วโมงแรก
  • หากมีอาการบวมกรุณาใช้ถุงน้ำแข็งหรือแจ้งให้แพทย์ทราบทันที
  • กรุณาแจ้งให้แพทย์ทราบหากมีการเปลี่ยนสีหรืออักเสบ

รีวิวจากลูกค้าของเรา

มั่นใจด้วยรีวิวจากลูกค้าของเรา

ลูกค้าของเราคิดอย่างไร

จริงใจ อบอุ่น และปลอดภัย

5.0
“บรรยากาศอบอุ่น สะอาด ตกแต่งเรียบร้อย เพิ่งไปฉีด Botox ครั้งแรกในรอบ 5 ปี คุณหมอมีประสบการณ์และจริงใจมาก จะกลับมาอีกแน่นอน!”
-
Chitnarong Visessompark
5.0
"พนักงานอบอุ่นเป็นกันเองมาก คุณหมอมืออาชีพ รู้สึกเหมือนอยู่บ้าน ไม่เหมือนคลินิกผิวหนังอื่นๆ"
-
Bobby Srisawas
5.0
“คลินิกอยู่ในทำเลที่สะดวกมาก ได้รับการต้อนรับอย่างดีทันทีที่มาถึง สภาพแวดล้อมสะอาดมาก ขอขอบคุณและแนะนำให้มาปรึกษาคุณหมอปรางค์ปราที่ทำงานดีเยี่ยม และรู้สึกขอบคุณสำหรับความเป็นมืออาชีพและความจริงใจของคุณหมอที่นี่ค่ะ”
-
Kusang Chung

วางแผนการดูแลผิวของคุณกับเราวันนี้