ฟิลเลอร์ใต้ตา

ลดเลือนริ้วรอยที่บริเวณใต้ตา หางตา และรอบ ๆ ดวงตา และเพื่อให้ผิวบริเวณดังกล่าวกลับมาเต่งตึง กระชับ ดูอ่อนเยาว์ลงอีกครั้งด้วยฟิลเลอร์ใต้ตา
ฟิลเลอร์ใต้ตา
ระยะเวลาการรักษา
30 - 60 นาที
เวลาพักฟื้น
ไม่มี
ระยะเวลาของผลลัพธ์
24 เดือน
ราคา
เริ่มที่ 13000 บาท

ฟิลเลอร์ใต้ตาคืออะไร ตัวช่วยสำคัญเพื่อดวงตาสดใส เปล่งประกายขึ้นได้จริงไหม?

ไม่ว่าใครก็ต้องการที่จะคงความสวยและความดูดีเอาไว้บนเรือนร่างและใบหน้า ไม่ว่าจะอายุไหน วัยไหน ความงามก็ถือเป็นสิ่งที่ทุกคนปรารถนา และด้วยเทคโนโลยีที่ก้าวหน้า บวกกับการคิดค้นนวัตกรรมการคิดค้นการเสริมความงามใหม่ ๆ ตลอดเวลา จึงไม่น่าแปลกใจที่ทำไมยุคนี้ สมัยนี้ มีคลินิกเสริมความงามผุดขึ้นมาให้เลือกใช้บริการกันมากมายทั่วทุกมุมถนน 

และอีกหนึ่งการเสริมความงามที่เป็นที่นิยมกันในหมู่สาว ๆ ในยุคปัจจุบัน คือการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ซึ่งถือเป็นการเสริมความงามที่ตอบโจทย์สาว ๆ เป็นอย่างมาก ในเรื่องของการลดเลือนริ้วรอยที่บริเวณใต้ตา หางตา และรอบ ๆ ดวงตา และเพื่อให้ผิวบริเวณดังกล่าวกลับมาเต่งตึง กระชับ ดูอ่อนเยาว์ลงอีกครั้ง

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาออะไร?

ฟิลเลอร์เป็นสารไฮยาลูรอนิค ซึ่งเป็นกรดคอลลาเจนที่สามารถสลายกลายเป็นน้ำและละลายออกไปได้หมด 100% โดยไม่มีสิ่งตกค้างในร่างกายหรือผิวหนัง ดังนั้น ทางวงการแพทย์เพื่อความงามจึงได้คิดค้นนำสารนี้มาใช้เพื่อคืนความอ่อนเยาว์ให้กับผิวหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการทำมาใช้กับบริเวณผิวหนังใต้ตา อีกทั้งยังสามารถช่วยแก้ไขปัญหาใต้ตาลึก ถุงใต้ตา รอยคล้ำใต้ตา และรอยย่นรอบดวงตาได้เป็นอย่างดีอีกด้วย

เมื่ออายุเริ่มมากขึ้น โดยทั่ว ๆ ไปเมื่ออายุเริ่มย่างเข้าสู่วัย 25 ปี ผิวหนังใต้ตาจะยุบลง จึงทำให้ใบหน้าดูมีอายุและดูแก่ การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตานั้นจึงช่วยเติมร่องยุบเหล่านั้นให้ดูเต่งตึง เปล่งปลั่ง จึงทำให้ใบหน้าดูเด็กลง ดังนั้นการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตานั้นจึงถือว่าเป็นอะไรที่ตอบโจทย์เรื่องปัญหาใต้ตาได้ เป็นอย่างมาก

ฟิลเลอร์ในประเทศไทยที่ใช้กันอย่างแพร่หลายนั้น คือ ฟิลเลอร์ที่เป็นสารในกลุ่ม Hyaluronic Acid โดยสารชนิดนี้เมื่อถูกนำมาฉีดเข้าสู่ร่างกายจะสามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติตามกระบวนย่อยสลายของร่างกายมนุษย์ ผลลัพธ์จะอยู่ได้ยาวนานประมาณ 6-12 เดือน แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับหลาย ๆ ปัจจัยด้วย เช่น ยี่ห้อที่ใช้ในการฉีด หรือการดูแลตัวเองหลังการฉีดฟิลเลอร์ เป็นต้น

ปัญหาใต้ตาคล้ำเกิดจากอะไรบ้าง?

ปัญหาใต้ตาคล้ำนั้นสามารถเกิดขึ้นมาได้จากหลากหลายสาเหตุไม่ว่าจะเป็นพฤติกรรมเล็ก ๆ ที่ก่อให้เกิดปัญหาใต้ตาคล้ำ เช่น การขยี้ตา การพักผ่อนน้อย หรือการเกิดความเครียดต่าง ๆ นอกจากนี้ ขอบตาดำยังสามารถเกิดขึ้นได้จากโรคภูมิแพ้ เพราะระบบไหลเวียนเลือดใต้ผิวหนังเกิดการติดขัดจนทำให้เลือดเกิดการขยายตัว เราจึงเห็นเป็นสีคล้ำ ๆ ที่บริเวณใต้ตา

กรรมพันธุ์ก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดปัญหาใต้ตาคล้ำ ในบางคนอาจจะพบว่าผู้ที่มีกระดูกเจริญเติบโตที่ช่วงเบ้าตาและบริเวณใต้ตาจากกรรมพันธุ์อาจทำให้เกิดเป็นใต้ตาดำคล้ำได้ หรือเกิดเป็นถุงใต้ตาหรือร่องใต้ตาได้ ชั้นไขมันใต้ตาก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดปัญหาใต้ตาคล้ำ เนื่องจากชั้นไขมันเกิดการยุบตัวหรือฝ่อบางลงอาจจะเนื่องมาจากอายุที่มากขึ้น จึงทำให้เกิดเป็นเบ้าตาลึกโบ๋และดูหมองคล้ำได้นั่นเอง

วิธีแก้ตาดำคล้ำ ถุงใต้ตา และปัญหารอบดวงตาต่าง ๆ

การแก้ไขปัญหาใต้ตาดำคล้ำ ปัญหาถุงใต้ตา หรือปัญหาผิวรอบดวงตาอื่น ๆ นั้น สามารถแก้ไขได้ 2 วิธี คือ วิธีธรรมชาติและวิธีการทางคลินิก

วิธีแก้ตาดำคล้ำด้วยวิธีการทางธรรมชาติ

ทาครีมบำรุงใต้ตา

เป็นวิธีแก้ไขปัญหาใต้ตาแรก ๆ ที่หลายคนเลือกใช้ เพราะมีความสะดวก ง่ายดาย และเป็นวิธีที่ไม่ซับซ้อน อีกทัง้ยังมีผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงใต้ตาให้เลือกในท้องตลาดมากมายหลากหลายเนื้อสัมผัส แต่ข้อจำกัดคือต้องใช้ระยะเวลาจนกว่าจะเห็นผล อีกทั้งยังอาจไม่ให้ผลลัพธ์ที่สามารถเห็นได้ชัดเจนอีกด้วย

มาส์กใต้ตา

การมาส์กใต้ตานั้นถือเป็นวิธีการดูแลผิวบริเวณใต้ดวงตาอย่างล้ำลึก อีกทั้งยังเป็นวิธีการที่ง่ายดายเพียงแค่นำแผ่นเจล ถุงชา หรือแม้แต่แตงกวามาวางประคบผิวที่บริเวณรอบดวงตา ข้อเสียคือต้องใช้ระยะเวลาด้วยเช่นเดียวกัน

วิธีแก้ตาดำคล้ำด้วยวิธีการทางคลินิก

เลเซอร์ใต้ตา

เป็นการยิงแสงเลเซอร์ตรงเข้าสู่บริเวณใต้ตาเพื่อทำลายเม็ดสีและได้ผลลัพธ์หลังทำเลเซอร์ คือ ใต้ตากลับมาสว่างสดใสมากยิ่งขึ้น แต่อาจจะรู้สึกเจ็บปวดระหว่างทำหรืออาจทำให้เกิดแผลติดเชื้อได้ นอกจากนี้ ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาใต้ตาคล้ำจากกระดูกยุบตัวได้

ผ่าตัดใต้ตา

การผ่าตัดใต้ตาเหมาะกับเคสที่มีไขมันที่บริเวณถุงใต้ตาเยอะเพื่อเอาไขมันส่วนเกินออก หลังผ่าตัดจะช่วยให้ผิวบริเวณใต้ตาดูเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น ถุงใต้ตาดูลดลง แต่มีความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดอาการบวมช้ำ หรืออักเสบติดเชื้อ อีกทั้งยังต้องใช้เวลาพักฟื้นค่อนข้างนานอีกด้วย

ฉีดไขมันใต้ตา

วิธีนี้เป็นวิธีที่เหมาะกับผู้ที่ไขมันบริเวณใต้ดวงตาฝ่อลงเนื่องจากอายุที่มากขึ้นจนเกิดเป็นรอยโบ๋และรอยคล้ำที่บริเวณใต้ตา การฉีดไขมันใต้ตาคือการใช้ไขมันตัวเองโดยการดูดไขมันมาจากบริเวณอื่นเพื่อมาฉีดเติมที่บริเวณใต้ตา ถือเป็นวิธีที่ปลอดภัยเนื่องจากเป็นการใช้ไขมันของตัวเอง จึงลดความเสี่ยงที่จะเกิดอาการแพ้ได้ แต่มีข้อจำกัด คือ วิธีการที่ยุ่งยาก และอาจมีแผลในตำแหน่งที่ทำการดูดไขมันขึ้นมาเพื่อนำไปฉีดที่ใต้ตา อีกทั้งยังอาจทำให้เกิดปัญหาผิวไม่เรียบเนียนเสมอกัน

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา   

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเป็นการเติมสารไฮยาลูโรนิกที่มีลักษณะของเนื้อสัมผัสเป็นเนื้อเจลเข้าไปที่บริเวณใต้ตา จึงช่วยให้ใต้ตาดูตื้นและเติมเต็มมากยิ่งขึ้น อีกทั้งถุงใต้ตาและริ้วรอยใต้ตาก็จะดูจางลง ทำให้ใต้ตากลับมาดูสดใสเรียบเนียนขึ้น ถือเป็นวิธีการที่ง่าย สะดวก ปลอดภัย และเป็นที่แนะนำกันในหมู่แพทย์อีกด้วย

ข้อดีและข้อควรระวังของการเติมฟิลเลอร์ใต้ตามีอะไรบ้าง?

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตานั้นใช้ระยะเวลาในการทำไม่นาน โดยทั่ว ๆ ไป จะใช้เวลาเพียงแค่ 15-30 นาที เท่านั้น เมื่อฉีดลงบนผิวหนังในตำแหน่งที่ต้องการ ตัวสารจะออกฤทธิ์ในทันที และจะเห็นผลอย่างชัดเจนมากที่สุดหลังจากทำการฉีดไปแล้วประมาณ 5 วัน ตัวสารฟิลเลอร์จะคงอยู่และให้ผลลัพธ์นาน 6 ถึง 12 เดือน โดยระยะการคงอยู่ของฟิลเลอร์ในร่างกายนั้นขึ้นอยู่กับสรีระร่างกายของแต่ละบุคคล

ข้อดีของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

  • ช่วยเติมเต็มร่องลึกที่บริเวณหางตา ใต้ตา และรอบดวงตาให้ดูตื้นมากยิ่งขึ้น
  • ช่วยให้ดูอ่อนกว่าวัย เนื่องจากไปเติมเต็มส่วนที่ยุบตัวลงบริเวณหางตา
  • ให้ผลลัพธ์ที่รวดเร็วทันใจ สามารถเห็นผลได้โดยทันทีโดยไม่ต้องรอ
  • ปลอดภัย เนื่องจากเป็นสารที่สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ จึงไม่ต้องกังวลเรื่องสารตกค้างในร่างกาย

ข้อเสียของการฉีดฟิลเลอร์

  • หากฉีดในปริมาณมาก ๆ อาจจะส่งผลให้ฟิลเลอร์จับตัวกันเป็นก้อน
  • อาจก่อให้เกิดอาการบวม แดง ในบริเวณที่ทำการฉีดฟิลเลอร์ แต่อาการเหล่านี้จะหายไปได้เองภายในระยะเวลาประมาณ 2-3 วัน

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอันตรายไหม?

หลาย ๆ คนอาจจะได้ยินมาว่าการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตานั้นมีความเสี่ยงสูง แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้น ความเสี่ยงที่เลื่องลือกันมานี้อาจเกิดจากการที่ราคาการฉีดฟิลเลอร์ในสมัยก่อนนั้นมีราคาค่อนข้างสูง จึงทำให้มีฟิลเลอร์ปลอมออกสู่ท้องตลาดมากมาย โดยฟิลเลอร์ปลอมที่ว่านี้มีมากมายหลากหลายรูปแบบ โดยมีทั้งแบบซิลิโคนเหลว แบบที่เป็นฟิลเลอร์แต่ว่าไม่บริสุทธ์ และมีฟิลเลอร์ของปลอมที่ไม่บริสุทธิ์ ซึ่งไม่สามารถละลายออกจากร่างกายได้ 100% ดังนั้นความเสี่ยงที่ว่านี้คือความเสี่ยงและอันตรายจากการใช้ฟิลเลอร์ปลอม

หากกังวลในเรื่องของความปลอดภัย ทางเราแนะนำให้หาอ่านข้อมูลเกี่ยวกับการฉีดฟิลเลอร์ ซึ่งสมัยนี้มีข้อมูลให้อ่านและมีรีวิวมากมาย ซึ่งข้อมูลเหล่านี้สามารถหาอ่านได้ไม่ยาก และมีการเปรียบเทียบข้อมูลบนโลกออนไลน์ หากสาว ๆ ใช้ฟิลเลอร์ของแท้ในการฉีดใต้ตา ก็แทบจะไม่ต้องกังวลในเรื่องของความอันตรายที่เกิดจากตัวฟิลเลอร์เลย เพราะเมื่อฉีดฟิลเลอร์เข้าร่างกาย ฟิลเลอร์ของแท้จะสามารถสลายเองได้ 100% ดังนั้น การฉีดฟิลเลอร์จึงไม่ได้เป็นเรื่องน่ากลัวหรืออันตรายอย่างที่หลาย ๆ คนเข้าใจอีกต่อไป หากเลือกใช้ฟิลเลอร์ของแท้ในการฉีด

ใครที่เหมาะและไม่เหมาะกับการเติมฟิลเลอร์ใต้ตาบ้าง?

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตานั้นเหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัดใต้ตา หรือผู้ที่ไม่มีเวลาพักฟื้น แต่ต้องการเห็นผลลัพธ์ที่รวดเร็ว การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตานั้นเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาร่องใต้ตา มีถุงใต้ตา และใต้ตามีขอบตาดำคล้ำ อีกทั้งยังเหมาะกับผู้ที่ต้องการยกกระชับหน้าในบางจุด และอยากให้หน้าดูอ่อนเยาว์ลง ดูเด็กลงอย่างเป็นธรรมชาติ

สำหรับผู้ที่ไม่เหมาะกับการฉีดใต้ตา คือ ผู้ที่มีปัญหาเลือดออกง่าย แต่หยุดยาก หรือมีภาวะฟกช้ำง่าย ไม่เหมาะกับผู้ที่มีอาการแพ้สารไฮยาลูโรนิค เพราะการเติมฟิลเลอร์นั้นเป็นการเติมสารนี้เข้าสู้ใต้ชั้นผิวหนัง อีกทั้งยังไม่เหมาะกับผู้ที่มีถุงใต้ตาขนาดใหญ่ หรือผู้ที่มีถุงใต้ตาหย่อนคล้อยและผิวหนังบริเวณนั้นบาง เพราะอาจจะทำให้ฟิลเลอร์จับตัวกันเป็นก้อนได้ นอกจากนี้ การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตายังไม่เหมาะกับผู้ที่เป็นโรคติดต่อ หรือกำลังมีอาการระคายเคืองในบริเวณที่ต้องการจะทำการฉีด เพราะอาจจะทำให้เกิดอาการติดเชื้อได้

เปรียบเทียบการเติมฟิลเลอร์ใต้ตากับการฉีดไขมันใต้ตา แบบไหนดีกว่ากัน?

สำหรับใครที่กำลังประสบปัญหาใต้ตาดำคล้ำ ดูไม่สดใส และกำลังมองหาวิธีแก้ปัญหากวนใจเหล่านี้อยู่ ทางออกสำหรับปัญหานี้ที่เป็นที่นิยมและเป็นที่แนะนำ คือ การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาและการฉีดไขมันใต้ตา ทั้งสองวิธีนี้อาจจะฟังดูมีความคล้ายคลึงกัน แต่จริง ๆ แล้วมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป

การเติมฟิลเลอร์ใต้ตา

สำหรับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตานั้น จะเป็นการเติมสารไฮยาลูโรนิคเข้าสู่ผิวหนังเพื่อไปเติมเต็มในส่วนของใต้ตาที่ดูซูบตอบลึกโบ๋จนกลายเป็นรอยใต้ตาคล้ำ ข้อดีคือสะดวกสบาย ง่าย รวดเร็ว อีกทั้งยังเป็นที่แนะนำว่าเป็นวิธีที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย แต่ข้อจำกัดของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาก็คือผลลัพธ์ที่ได้นั้นอาจไม่คงอยู่ยาวนาน โดยผลลัพธ์จะอยู่ได้ประมาณ 6-12 เดือนขึ้นอยู่กับยี่ห้อของฟิลเลอร์ที่ใช้และการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ด้วย

การฉีดไขมันใต้ตา

แต่สำหรับการฉีดไขมันใต้ตานั้น ถือเป็นการเติมเต็มใต้ตา คอนเซ็ปต์เดียวกันกับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แต่จะใช้เป็นไขมันของผู้ฉีดเองในการฉีดข้าไปที่บริเวณใต้ตา ขั้นตอนคือการดูดไขมันจากบริเวณอื่น ๆ บนร่างกายมาฉีดที่บริเวณใต้ตาเพื่อเต็มเต็มให้ชั้นตาดูอวบอิ่มขึ้น ข้อดีคือไม่ต้องกังวลเรื่องการแพ้หรือการระคายเคือง เพราะไขมันที่ทำการฉีดเข้าไปนั้นเป็นไขมันของตัวเอง แต่ข้อเสียคือขั้นตอนการฉีดนั้นมีความยุ่งยาก และอาจเกิดปัญหาผิวไม่เรียบเนียน เนื่องจากการดูดไขมันออกไป ทำให้ผิวดูยุบตัว และดูไม่เรียบเนียนเสมอกัน

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้ถาวรไหม?

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตานั้นไม่ได้ให้ผลลัพธ์ที่คงทนถาวรตลอดไป แต่จะมีอายุอยู่ได้ประมาณ 6 เดือนถึง 1 ปี ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เลือกใช้ พฤติกรรม และการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์อีกด้วย โดยหากต้องการให้ฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้ยาวนานจะแนะนำให้หลีกเลี่ยงการสัมผัสกับความร้อนหรือการไปอยู่ในที่กลางแจ้งบ่อย ๆ หากหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเหล่านี้ได้ ฟิลเลอร์ก็สามารถอยู่ได้ยาวนานมากยิ่งขึ้น

ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาคล้ำ

ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาคล้ำนั้น หลังจากที่แพทย์ทำการนัดเข้ามาเพื่อฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา จะมีการประเมินปัญหา สภาพผิวใต้ตา และอธิบายขั้นตอนต่าง ๆ ในการฉีดฟิลเลอร์เพื่อเป็นการทำความเข้าใจขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ และการฉีดฟิลเลอร์นั้นจะใช้เวลาไม่นานเพียง 5-20 นาทีเท่านั้น โดยขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาคล้ำ มีดังนี้

  • ทำความสะอาดผิวหน้าและล้างเครื่องสำอางออกให้หมด
  • แพทย์จะทำการวาดจุดลงบนผิวหน้าในบริเวณที่จะทำการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
  • แพทย์จะทำการทายาชาที่บริเวณใต้ตาเพื่อเป็นการเตรียมตัวก่อนการฉีดฟิลเลอร์ จากนั้นจะรอประมาณ 30 นาทีเพื่อให้ยาชาออกฤทธิ์
  • แพทย์จะทำการฉีดฟิลเลอร์ในจุดที่ได้ทำการวาดเอาไว้ก่อนหน้านี้

เตรียมตัวฉีดฟิลเลอร์ใต้ตายังไง?

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอาจจะไม่ต้องเตรียมตัวอะไรมากนัก แต่สิ่งที่ควรตระหนักถึงคือการงดรับประทานยาและอาหารเสริมบางชนิด เช่น วิตามินอี แอสไพริน อีกทั้งควรแจ้งให้แพทย์ทราบหากมีประวัติการแพ้ยา

หลังจากที่เข้ารับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาเรียบร้อยแล้ว จะมีคำแนะนำจากแพทย์เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด คือ ไม่ควรนอนราบหลังฉีดฟิลเลอร์เป็นระยะเวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง อีกทั้งยังไม่ควรแต่งหน้าหรือใช้ครีมบำรุงทุกชนิดเป็นระยะเวลา 12 ชั่วโมงแรก เนื่องจากอาจทำให้สารฟิลเลอร์กระจาย และไม่ให้ผลลัพธ์ตามที่คาดหวังไว้ อีกทั้งยังควรงดออกกำลังกายภายใน 48 ชั่วโมงแรก หรือการสัมผัสความร้อนด้วยวิธีการต่าง ๆ รวมทั้งห้ามถูหน้าแรง ๆ เพราะอาจทำให้สารฟิลเลอร์สลายไปอย่างรวดเร็ว สิ่งที่ควรทำคือการดื่มน้ำในปริมาณมาก ๆ โดยอาจจะดื่มน้ำประมาณ 8-12 แก้วต่อวันอีกด้วย

ฟิลเลอร์ใต้ตา

ราคาเท่าไร?

สำหรับราคาการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตานั้นมีมากมายหลากหลายราคาตามแต่ละคลินิก แต่โดยทั่ว ๆ ไปแล้ว ราคาในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตานั้นจะเริ่มต้นที่ประมาณ 2500 บาทต่อซีซี ซึ่งอาจจะขึ้นอยู่กับการจัดโปรโมชั่นของทางคลินิกที่ให้บริการอีกด้วย แต่สิ่งที่ควรระมัดระวังคือการใช้บริการในสถานบริการที่ไม่ได้มาตรฐาน ซึ่งมักจะมีข้อเสนอราคาถูก และมักจะใช้ฟิลเลอร์ที่ไม่ได้ผ่านการรับรองหรือไม่ได้มาตรฐานมาใช้!! ดังนั้นไม่ควรเห็นแก่ของถูก เพราะเราไม่สามารถทราบได้ว่าสารที่นำมาฉีดนั้นเป็นสารชนิดใด ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเสี่ยงที่จะมีผลข้างเคียงและอันตรายตามมาสูง ควรปรึกษาแพทย์กับใช้บริการจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังจะดีกว่าและปลอดภัยกว่ามาก

เลือกฟิลเลอร์ใต้ตายี่ห้อไหนและฉีดที่ไหนดี?

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจะเป็นการฉีดฟิลเลอร์ลงในชั้นผิวหนังที่ค่อนข้างบาง จึงแนะนำให้ควรเลือกฉีดฟิลเลอร์ที่ไม่มีคุณสมบัติทำให้ผิวฟูมากจนเกินไป เพราะอาจจะทำให้ตาดูบวม ดูไม่สวย และไม่เป็นธรรมชาติ การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาควรเน้นฉีดให้ดูเป็นธรรมชาติที่สุดถึงจะออกมาสวยอย่างเป็นธรรมชาติ เพราะหากเราใช้ฟีลเลอร์รุ่นที่อุ้มน้ำมากจนเกินไป จะส่งผลให้ผิวดูฟูเยอะเกินไปอาจทำให้ใบหน้าดูบวมผิดธรรมชาติได้

สำหรับสถานที่ที่ให้บริการการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา จะแนะนำให้เลือกใช้บริการคลินิกที่ให้บริการอย่างมีมาตรฐาน มีเอกสารรับรองการเปิดให้บริการอย่างถูกต้อง เพื่อความมั่นใจในความปลอดภัย และผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังสามารถการันตีได้ว่าทางคลินิกจะเลืกอใช้ฟิลเลอร์ของแท้ เพื่อความปลอดภัย และไม่มีการสะสมในร่างกาย

สรุปข้อมูลการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา และแนะนำฉีดที่ Skinserity ดีอย่างไร?

แน่นอนว่าการทำอะไรสักอย่างกับใบหน้าของเรานั้นเป็นสิ่งที่ควรระมัดระวังเป็นอย่างมาก ดังนั้น การเลือกคลินิกที่ให้บริการฉีดฟิลเลอร์จึงเป็นอะไรที่สำคัญและเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม ที่คลินิก Skinserity มีบริการฉีดฟิลเลอร์ให้บริการแก่ผู้ที่กำลังประสบปัญหาใต้ตาคล้ำ โดยให้บริการอย่างมีมาตรฐานและปลอดภัย ด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ในการให้บริการฉีดฟิเลอร์ เพื่อความมั่นใจในประสิทธิภาพของผลลัพธ์และความปลอดภัยในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาคล้ำ

ขั้นตอนการรักษา

Consultation

วางแผนการรักษาส่วนตัวของคุณกับผู้เชี่ยวชาญของเรา

Treatment
  • ทำความสะอาดผิวของคุณ
  • ทำเครื่องหมายบริเวณการรักษาของคุณ
  • เลือกผลิตภัณฑ์ฟิลเลอร์อย่างระมัดระวัง
  • การฉีดฟิลเลอร์
After treatment care
  • การดูแลหลังการส่วนตัวจากผู้เชี่ยวชาญของเรา
  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสหรือนวดบริเวณที่ฉีด
  • รับประทานยาตามที่กำหนด (ถ้ามี)
  • หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่เข้มข้นภายใน 24 ชั่วโมงแรก
  • หากมีอาการบวมกรุณาใช้ถุงน้ำแข็งหรือแจ้งให้แพทย์ทราบทันที
  • กรุณาแจ้งให้แพทย์ทราบหากมีการเปลี่ยนสีหรืออักเสบ

รีวิวจากลูกค้าของเรา

มั่นใจด้วยรีวิวจากลูกค้าของเรา

ลูกค้าของเราคิดอย่างไร

จริงใจ อบอุ่น และปลอดภัย

5.0
“บรรยากาศอบอุ่น สะอาด ตกแต่งเรียบร้อย เพิ่งไปฉีด Botox ครั้งแรกในรอบ 5 ปี คุณหมอมีประสบการณ์และจริงใจมาก จะกลับมาอีกแน่นอน!”
-
Chitnarong Visessompark
5.0
"พนักงานอบอุ่นเป็นกันเองมาก คุณหมอมืออาชีพ รู้สึกเหมือนอยู่บ้าน ไม่เหมือนคลินิกผิวหนังอื่นๆ"
-
Bobby Srisawas
5.0
“คลินิกอยู่ในทำเลที่สะดวกมาก ได้รับการต้อนรับอย่างดีทันทีที่มาถึง สภาพแวดล้อมสะอาดมาก ขอขอบคุณและแนะนำให้มาปรึกษาคุณหมอปรางค์ปราที่ทำงานดีเยี่ยม และรู้สึกขอบคุณสำหรับความเป็นมืออาชีพและความจริงใจของคุณหมอที่นี่ค่ะ”
-
Kusang Chung

วางแผนการดูแลผิวของคุณกับเราวันนี้