โบท็อกซ์ลดกราม

ฉีดโบท็อกซ์ใบหน้าโดยใช้สารคลายกล้ามเนื้อที่ช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวสวย
โบท็อกซ์ลดกราม
ระยะเวลาการรักษา
20 นาที
เวลาพักฟื้น
ไม่มี
ระยะเวลาของผลลัพธ์
3-6 เดือน
ราคา
เริ่มที่ 3,000 บาท

ฉีดผิวให้อ่อนเยาว์ขั้นสุด

ไร้ริ้วรอยและหน้าวี:

การฉีดโบท็อกซ์ใบหน้าโดยใช้สารคลายกล้ามเนื้อที่ช่วยลดเลือนริ้วรอยที่มองเห็นได้ ลดความหย่อนคล้อยของผิว ทำให้ดูอ่อนเยาว์และได้รูปหน้าวีเชฟ การฉีดโบท็อกซ์เข้าไปในกล้ามเนื้อบดเคี้ยว (masseter) ยังใช้เป็นการรักษาในอุดมคติเพื่อคลายความตึงเครียดของกล้ามเนื้อสำหรับผู้ที่ปวดหัวไมเกรนจากความเครียดและการนอนกัดฟัน

ต่อมเหงื่อและรูปร่าง:

การฉีดโบท็อกซ์ยังใช้เพื่อลดการหลั่งของเหงื่อในบริเวณต่างๆ ของร่างกาย การฉีดจะทำที่ชั้นในผิวหนังเพื่อลดการผลิตเหงื่อ การฉีดเข้าไปในกล้ามเนื้อส่วนอื่นๆ ของร่างกายจะคลายความตึงเครียดของกล้ามเนื้อและช่วยให้รูปร่างดีขึ้น เช่น รักษาอาการออฟฟิศซินโดรมและลดขนาดน่อง

บริเวณที่รักษา

  • Wrinkler ใบหน้าส่วนบน
    ได้แก่ เส้นหน้าผาก เส้นขมวดคิ้ว รอยตีนกา
  • Wrinkler ใบหน้าส่วนบน
    ได้แก่ เส้นหน้าผาก เส้นขมวดคิ้ว รอยตีนกา
  • การฉีดแมสเซตเตอร์
    ลดโหนกแก้มไม่เพียงช่วยให้ได้รูปหน้า V-shape แต่ยังช่วยแก้ไขปัญหากรามล็อคและไมเกรนอีกด้วย
  • ยกกระชับใบหน้า
    โบท็อกซ์สามารถใช้เพื่อสร้างการผลิตคอลลาเจนในชั้นหนังแท้ซึ่งช่วยยกกระชับใบหน้าของคุณ
  • โบท็อกซ์ผิว
    ด้วยการผลิตคอลลาเจนในชั้นหนังแท้ โบท็อกซ์ผิวหนังทำให้เรามีโอกาสปรับปรุงความคมชัดของใบหน้า
  • ลดเหงื่อใต้วงแขน
    โบท็อกซ์ช่วยในการลดเหงื่อโดยการปิดกั้นสัญญาณประสาทที่กระตุ้นการผลิตเหงื่อชั่วคราว
  • ออฟฟิศซินโดรมบำบัด
    ด้วยคุณสมบัติในการลดการเกร็งของกล้ามเนื้อที่ก่อให้เกิดอาการปวดเรื้อรังของกล้ามเนื้อ
  • ลดน่อง
    ด้วยการผ่อนคลายกล้ามเนื้อ โบท็อกซ์จะช่วยให้คุณได้น่องที่เรียวเล็กลง

ผลลัพท์หลังการฉีด

  • อาจมีรอยเข็มที่บริเวณฉีดยา
  • ปวดเล็กน้อยบริเวณที่ฉีด
  • เริ่มเห็นผลลดเลือนริ้วรอยใน 7-14 วัน
  • ในเคสฉีดเข้ากล้ามเนื้อจะเริ่มเห็นผลใน 2-4 สัปดาห์
  • การลดเหงื่อเห็นผลใน 5-7 วัน
  • ยกกระชับขึ้นใน 1-3 วันหลังฉีด

Botox ที่ Skinserity

ที่ Skinserity Clinic เรามีโบท็อกซ์หลากหลายยี่ห้อซึ่งผ่านการรับรองจาก อย. แพทย์ของเราจะช่วยแนะนำให้คุณเลือกสิ่งที่ดีที่สุดที่เหมาะกับคุณ

  • Anti-wrinkle :: 4,900 บาท
  • Masseter Reduction :: 9,500 บาท
  • Face Lift:: 9,500 บาท
  • Underarm sweat reduction :: 7,500 บาท
  • Muscle tension reduction (Office syndrome) :: 10,000 บาท
  • Calves size reduction: 10,000 บาท

** ราคาขึ้นอยู่กับ Aestox Botox

นอกจากนี้เรายังมีโบท็อกซ์แต่ละยี่ห้อโดย 100 ยูนิต

  • Allergan 100 unit 18,000 บาท
  • Xeomin 100 unit 14,000 บาท
  • Aestox 100 unit 9,500 บาท

ฉีดโบท็อกลดกรามคืออะไร ช่วยให้หน้าเรียวเห็นผลได้จริงไหม?

เดี๋ยวนี้ไม่ว่าจะเป็นดาราเซเลบหรือคนทั่วไป ถ้าสังเกตดูส่วนใหญ่แล้วจะมีใบหน้าที่หน้าเรียวสวยได้รูปกันทั้งนั้น ในจำนวนนี้อาจจะมีคนที่หน้าเรียวตามธรรมชาติอยู่แล้ว แต่เชื่อว่ามีไม่น้อยเลยที่อาศัยการฉีดโบท็อกเพื่อให้หน้าเรียวกระชับขึ้นเนื่องจากเป็นวิธีที่ได้รับความนิยม โดยโบท็อกนั้นเป็นชื่อย่อของสารโบทูลินัม ท็อกซิน เอ (Botulinum Toxin A) ซึ่งเป็นสารธรรมชาติที่เมื่อนำมาใช้ในด้านความสวยความงามแล้วจะช่วยให้ใบหน้ากระชับ เรียวขึ้น ลดริ้วรอย และช่วยปรับรูปหน้าให้เข้าที่มากขึ้น

ฉีดโบท็อกลดกรามคืออะไร? ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง?

การฉีดโบท็อกลดกราม คือ การฉีดสารโบทูลินัม ท็อกซิน เอ (Botulinum Toxin A) เข้าไปบริเวณกรามเพื่อลดการทำงานของกล้ามเนื้อในบริเวณนั้น ส่งผลให้กล้ามเนื้อฝ่อตัวและเล็กลง ทำให้ใบหน้าดูเรียวเล็กและดูสวยได้รูปมากยิ่งขึ้น

การฉีดโบท็อก นอกจากจะทำให้ใบหน้าเรียบเนียนกระชับแล้ว ยังสามารถลดกราม ทำหน้าเรียวและปรับรูปใบหน้า รวมทั้งโหนกแก้ม กราม จัดให้ออกมาให้ดูดีดูสวยได้ทั้งหมด เพราะการฉีดโบท็อกนั้นได้รับการยอมรับในวงการแพทย์มานานแล้ว และเป็นที่ยอมรับว่ามีฤทธิ์สามารถยับยั้งการหดตัวของกล้ามเนื้อได้ โดยไม่มีอาการหรือผลข้างเคียงร้ายแรงใด ๆ จึงเหมาะสำหรับคนที่มีปัญหาโหนกแก้มใหญ่และกรามเหลี่ยม 

ในการฉีดโบท็อกนั้นทีมแพทย์จะเลือกจุดในการฉีดโบท็อกเพื่อทำการปรับรูปหน้า โหนกแก้ม และส่วนกรามเพื่อให้รูปหน้าออกมาเรียวสวย ซึ่งในการฉีดจะต้องกำหนดแต่ละจุดบนใบหน้า เพื่อให้รูปหน้าออกมาสมมาตรกันโดยอาจจะเลือกฉีดโบท็อกเพื่อเติมเต็มส่วนที่หายไป แล้วฉีดโบท็อกอีกจุดเพื่อให้ใบหน้าเรียวได้รูปและกระชับมากที่สุด

เมื่อฉีดโบท็อกซ์เข้าไปในร่างกายแล้ว โบท็อกจะไปจับกับปลายประสาท และจะส่งสัญญาณกระตุ้นการหดตัว ทำให้กล้ามเนื้อเกิดการผ่อนคลาย ริ้วรอยค่อย ๆ เนียนเรียบขึ้น กล้ามเนื้อจะลีบฝ่อลง ทำให้ใบหน้าดูเรียวเล็กมากยิ่งขึ้น การฉีดโบที่ถูกวิธีโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญนั้นจะไม่ทำให้ใบหน้าดูเต่งตึงเกินไปจนไม่สามารถแสดงอารมณ์ทางสีหน้าได้เป็นปกติ เพราะโบท็อกจะทำงานเฉพาะส่วนของกล้ามเนื้อที่แพทย์ได้เลือกฉีดให้เท่านั้น และนอกจากจะช่วยให้ผิวเรียบตึงแล้วยังสามารถช่วยลดการทำงานของกล้ามเนื้อไม่ต้องการ ซึ่งส่งผลช่วยปรับรูปหน้าให้เรียวขึ้นได้อีกด้วย

สาเหตุของกรามใหญ่เกิดจากอะไร?

ปัญหากรามใหญ่เรียกได้ว่าเป็นปัญหากวนใจของใครหลาย ๆ คน เพราะทำให้หน้าดูบาน ดูมีอายุ และดูไม่ละมุน โดยสาเหตุหลัก ๆ ของการเกิดกรามใหญ่นั้นมาได้จากหลากหลายสาเหตุ ดังนี้

เกิดจากกรรมพันธุ์

กรรมพันธุ์เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดปัญหากรามใหญ่ โดยหากคุณพ่อคุณแม่หรือคนในบ้านมีลักษณะกรามใหญ่ ก็ทำให้เรามีโอกาสที่จะมีลักษณะกรามใหญ่มาด้วย กรามใหญ่ที่เกิดจากกรรมพันธุ์นั้นไม่สามารถแก้ไขให้หายได้ ต้องอาศัยการฉีดโบท็อกลดกราม หรือการผ่าตัดกราม

เกิดจากกล้ามเนื้อกรามใหญ่

การเคี้ยวอาหารเหนียว ๆ หรือเคี้ยวอาหารบ่อย ๆ ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณกรามทำงานหนักมากยิ่งขึ้น เหมือนกับการออกกำลังกายที่ยิ่งขยับกล้ามเนื้อบริเวณไหน กล้ามเนื้อบริเวณนั้นก็ยิ่งมีขนาดใหญ่ขึ้นเท่านะเน

เกิดจากการเจริญเติบโตของกระดูก

รูปแบบการเจริญเติบโตของกระดูกกรามก็มีส่วนทำให้ใบหน้าดูมีกรามเหลี่ยมได้ โดยทั่ว ๆ ไปแล้ว ปัญหากรามเหลี่ยมที่เกิดจากการเจริญเติบโตของกระดูกนั้นอาจแก้ไขไม่ได้ผลดีมากนักด้วยการฉีดโบท็อก จะแนะนำให้เข้ารับการผ่าตัดกรามจะดีกว่า

เกิดจากการที่ไขมันไปสะสมบนใบหน้า

เมื่อไขมันสะสมที่บริเวณใบหน้ามากเกินไป อาจทำให้หน้าดูบาน กรามดูเหลี่ยมได้ ปัญหาหน้าเหลี่ยมที่เกิดจากไขมันสะสมนี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการลดน้ำหนัก ควบคุมอาหาร และการฉีดโบท็อกก็สามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ด้วยเช่นเดียวกัน

อยากหน้าเรียวต้องฉีดอะไรดี?

หากต้องการมีใบหน้าดูเรียวสวยนั้น สามารถเข้ารับบริการที่หลากหลายได้เพื่อประสิทธิภาพที่เป็นที่น่าพึงพอใจ โดยหากอยากหน้าเรียว แนะนำให้ฉีด…

ฟิลเลอร์

การฉีดฟิลเลอร์ปรับรูปหน้านั้นเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาคางสั้น คางตัด คางบุ๋ม หรือผู้ที่ประสบปัญหาใบหน้าดูกร้าวเหมือนผู้ชาย แต่อยากต้องการให้ใบหน้าดูสวยละมุนและดูมีความเป็นผู้หญิงมากยิ่งขึ้น

โบท็อก

แน่นอนว่าการฉีดโบท็อกนั้นเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการหน้าเรียวเป็นอย่างมาก เป็นวิธีที่เป็นที่นิยมมาอย่างยาวนาน การฉีดโบท็อกนั้นให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน เพราะช่วยให้กล้ามเนื้อกรามลีบและดูเล็กลง ส่งผลให้ใบหน้าดูเรียวมากยิ่งขึ้น

เมโสแฟต

การฉีดเมโสแฟตเหมาะกับคนกรามใหญ่ที่เกิดจากการสะสมของไขมันที่บริเวณใบหน้า เนื่องจากสามารถสลายไขมันเฉพาะจุดบนใบหน้าได้ อีกทั้งยังสามารถทำควบคู่ไปกับการฉีดโบท็อกได้เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และเพื่อให้ได้รูปหน้าที่ดูเรียวสวยสมบูรณ์แบบ

นอกจากนี้ ยังมีนวัตกรรมอื่น ๆ ที่สามารถนำมาใช้เพื่อปรับรูปหน้าให้ดูเรียวสวยได้อีก ไม่ว่าจะเป็น ร้อยไหม, Ulthera, Thermage เป็นต้น

ฉีดโบท็อกลดกรามอันตรายไหม?

การฉีดโบท็อกนั้น เมื่อฉีดเข้าไปในปริมาณที่พอเหมาะ ตัวสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน จะทำให้กล้ามเนื้อเกิดการคลายตัว หรืออาจทำงานได้น้อยลง เรียกได้ว่ามีอาการอัมพาตชั่วคราว โดยดังกล่าวแทบไม่มีผลข้างเคียงใด ๆ หากให้บริการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ อีกทั้งในปัจจุบัน สารโบท็อกนั้นเป็นสารที่ได้รับการยอมรับในวงการแพทย์ทั่วโลกและได้มีการนำมาฉีดในเรื่องของสุขภาพและความงามกันอย่างแพร่หลาย จึงมีความปลอดภัยในการใช้ หากใช้อย่างถูกวิธี ในปริมาณที่เหมาะสม ด้วยเทคนิคที่ถูกต้อง

ปัจจุบันความนิยมในการฉีดสารโบท็อก ไม่ได้มีความนิยมเฉพาะคนที่มีอายุมากเท่านั้น แม้แต่วัยรุ่นอายุระหว่าง 20-30 ก็สนใจทำโบท็อกกันไม่น้อย เพราะบางคนอาจจะมีปัญหาริ้วรอย หรือต้องการฉีดเพื่อยกกระชับใบหน้า อย่างไรก็ตามการฉีดโบท็อกซ์ก็มีข้อควรระวังและข้อจำกัดเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการฉีดมากเกินไปหรือบ่อยเกินไปจนส่งผลให้กล้ามเนื้อจุดนั้นเป็นอัมพาตกลายเป็นคนหน้าตายได้ หรือจะเป็นผลข้างเคียงอื่น ๆในแต่ละคน เช่น ปวดหัว เป็นไข้ แต่โดยรวมแล้วก็ไม่มีอันตรายใด ๆ จากการฉีดโบท็อกซ์เพื่อยกกระชับและลดริ้วรอยบนใบหน้า

ฉีดโบลดกรามเหมาะกับใครบ้าง?

ผู้ที่เหมาะกับการฉีดโบท็อกลดกราม คือ ผู้ที่ประสบปัญหากรามใหญ่จากกล้ามเนื้อหรือไขมัน หรือกรามใหญ่ที่เกิดจากการเคี้ยวอาหาร หรือมีการขยับที่กรามบ่อย ๆ จนกล้ามเนื้อบริเวณนั้นขยาย นอกจากนี้ ยังเหมาะกับผู้ที่ไม่ต้องการผ่าตัดกราม ไม่อยากมีแผล และไม่อยากเสียเวลาพักฟื้น อีกทั้งการฉีดโบท็อกนั้นยังเป็นวิธีการแก้ไขปัญหาในราคาที่เอื้อมถึงได้ และสามารถฉีดซ้ำได้โดยไม่เป็นอันตรายใด ๆ เนื่องจากร่างกายจะสามารถสลายสารนี้ได้เองตามธรรมชาติเมื่อเวลาผ่านไป

ฉีดโบท็อกหน้าเรียวอยู่ได้นานแค่ไหน?

การฉีดโบท็อกนั้นใช้เวลาในการฉีดไม่นานเพียง 5-10 นาทีเท่านั้น สำหรับใครที่ใจร้อนและสงสัยว่าฉีดโบท็อกกี่วันเห็นผล ผลลัพธ์ที่ได้นั้นแตกต่างไปตามละบุคคลแต่ก็มีปัจจัยอย่างอื่น ๆ ร่วมด้วย

  • ปกติแล้วการฉีดโบท็อกจะใช้เวลาที่จะเห็นผลประมาณ 7 วันหรือเร็วกว่านั้น แต่จะเห็นผลชัดเจนมากที่สุดเมื่อผ่านไป 14 วัน กรามจะเรียวลงและใบหน้าจะเข้ารูปมากขึ้น แต่ผลลัพธ์ที่ได้นั้นจะไม่อยู่ตลอดไป ดังนั้น จึงจำเป็นต้องให้แพทย์ฉีดซ้ำอีก 6 เดือนหรือ 1 ปี หลังจากนั้น เพื่อให้หน้าของคุณยังคงเรียวสวยอยู่เสมอ
  • อย่างที่กล่าวไปว่าการฉีดโบท็อกจะเริ่มเห็นผลในวันที่ 7 แต่หากบริหารกล้ามเนื้อที่ใบหน้าบ่อย ๆ  เช่น เคี้ยวหมากฝรั่ง ก็จะช่วยทำให้โบท็อกออกฤทธิ์เร็วขึ้นอีกและจะทำให้ผลที่ฉีกโบท็อกอยู่นานขึ้นด้วย

ต้องฉีดโบท็อกลดกรามกี่ครั้ง หน้าถึงเล็กลง?

การฉีดโบท็อกเพื่อลดกรามนั้นสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ชัดเจนตั้งแต่ครั้งแรกที่ฉีด โดยกรามจะค่อย ๆ มีขนาดเล็กลงและใบหน้ามีความดูเรียวและดูเล็กมากยิ่งขึ้น แต่ทั้งนี้ ผลลัพธ์ของการฉีดโบท็อกนั้นจะอยู่ได้เพียงชั่วคราว เมื่อสารหมดฤทธิ์ กล้ามเนื้อจะค่อย ๆ กลับมาสู่สภาพเดิม จึงแนะนำให้กลับมาฉีดซ้ำหากอยากได้ผลลัพธ์ที่คงทนถาวร 

ฉีด Botox ลดกรามยี่ห้อไหนดี ของแท้ดูยังไง?

หากลองค้นเรื่องการฉีดโบท็อก อาจจะสงสัยว่าจริง ๆ แล้ว โบท็อกที่มีมากมายหลากหลายยี่ห้อ และมาจากหลากหลายประเทศ ทั้งอังกฤษ อเมริกา เกาหลี เยอรมัน สเปน แต่ที่มีเข้ามาในประเทศไทย แล้วยี่ห้อไหนดีที่สุด? 

ปัจจุบันไทยเรามีการใช้สารโบท็อกชนิด Type A กันค่อนข้างเป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลาย โดยยี่ห้อที่สามารถใช้ได้และเป็นของแท้จะผ่านการรับรองความปลอดภัยจากองค์การอาหารและยา โดยยี่ห้อดังกล่าวเหล่านี้ เช่น ยี่ห้อ Allergen จากอเมริกา ยี่ห้อ Aestox จากเกาหลี Dysport จากอังกฤษ และ Xeomin จากเยอรมัน

ยี่ห้อ Allergen จากอเมริกา

เป็นยี่ห้อโบท็อกที่มีความบริสุทธิ์มากถึง 99.5% จึงทำให้มีโอกาสที่จะเกิดอาการดื้อโบได้น้อย มอบผลลัพธ์การฉีดที่แม่นยำ เพราะตัวยามีการกระจายตัวแคบ ทำให้สามารถคาดคะเนการออกฤทธิ์ได้ เหมาะสำหรับการนำมาใช้ฉีดริ้วรอยเฉพาะจุด เช่น ตีนกา หัวคิ้ว หรือนำมาใช้ฉีดเพื่อปรับรูปหน้าหรือลดกรามได้ นอกจากนี้ ยังมีอายุการใช้งานยาวนานกว่าโบท็อกอื่น ๆ อีกด้วย

ยี่ห้อ Dysport จากอังกฤษ

ยี่ห้อนี้มอบตัวยาที่สามารถกระจายตัวได้กว้าง จึงเหมาะสำหรับการใช้นำมาฉีดในกล้ามเนื้อมัดใหญ่ ๆ เช่น ริ้วรอยที่บริเวณหน้าผาก ต้นแขน น่อง รักแร้ เป็นต้น โบท็อกยี่ห้อนี้มีโมเลกุลขนาดเล็ก ทำให้สามารถเข้าสู่เซลล์ประสาทได้ดีและออกฤทธิ์ได้ไว มอบผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ และเบาสบายผิว

ยี่ห้อ Xeomin จากเยอรมัน

โบท็อกจากเยอรมันยี่ห้อนี้มีความบริสุทธิ์สูงและไม่กระจุกตัวแคบจนเกินไป จึงทำให้เมื่อฉีดแล้วไม่รู้สึกตึง สามารถใช้ได้ดีในเคสที่ดื้อยา แต่เคสนั้น ๆ จำเป็นต้องหยุดการฉีดโบท็อกมาแล้วเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 2-3 ปี โบท็อกยี่ห้อนี้เหมาะสำหรับการนำมาฉีดเพื่อลดริ้วรอยและลิฟต์กรอบหน้า

ยี่ห้อ Aestox จากเกาหลี

โบท็อกยี่ห้อนี้ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อให้ออกฤทธิ์อย่างรวดเร็วและเห็นผลได้ไว เป็นโบท็อกสัญชาติเกาหลีที่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยาจากประเทศสหรัฐอเมริกาและจีน โดยได้รับ FDA approved  เหมาะสำหรับฉีดเพื่อลดริ้วรอย ฉีดที่บริเวณหน้าผาก หางตา หัวคิ้ว และสามารถนำมาใช้เพื่อลดกรามและกระชับใบหน้าได้

โบท็อกแต่ละยี่ห้อมีข้อเด่นต่างกัน และมีระยะเวลาออกฤทธิ์ต่างกันไป รวมถึงราคาของแต่ละยี่ห้อนั่นก็จะต่างกัน ซึ่งโดยทั่วไปแพทย์จะแนะนำชนิทของโบท็อคให้เหมาะสมสำหรับรายคน

ดูแลตัวเองหลังฉีด botox กรามยังไง?

หลังจากที่เข้ารับการฉีดโบท็อกแล้ว แพทย์จะมีคำแนะนำในการดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อก เพื่อให้ผลลัพธ์นั้นคงทนอยู่ยาวนาน และมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยวิธีการดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อก มีดังนี้

  • หลังฉีดโบท็อกกราม แนะนำให้เคี้ยวหมากฝรั่งหรือบริหารกล้ามเนื้อเป็นเวลา 30 นาที เพื่อให้โบท็อกออกฤทธิ์ได้ดีที่สุด
  • อย่านวด กด หรือนวดหน้า หรือกิจกรรมใด ๆ ที่ทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง
  • งดนอนราบหรือก้มหน้าเป็นเวลา 4 ชั่วโมง
  • งดการอยู่ในที่ร้อน เช่น อบซาวน่า ปรุงอาหารหน้าเตาร้อนเป็นเวลา 4 ชั่วโมง
  • รอยนูนจากการฉีดจะหายไปเองภายในเวลา 2-3 ชั่วโมง
  • งดการออกกำลังกายอย่างหนักหรือเล่นโยคะเป็นเวลา 4 ชั่วโมงหลังการฉีดโบท็อกซ์
  • งดการทายาหรือเครื่องสำอางที่ก่อให้เกิดการระคายเคือง เช่น วิตามินเอ เอเอชเอ วิตามินซี เป็นเวลา 24 ชั่วโมง
  • สามารถใช้น้ำแข็งประคบในกรณีที่มีอาการบวมแดงหรือช้ำได้

หลังจากฉีดโบท็อกแล้วยังสามารถทาครีมบำรุงหรือใช้เครื่องสำอางได้ตามปกติ แต่เพียงแค่ระมัดระวังไม่ไปกดทับผิวหรือถูผิวในบริเวณนั้นแรงจนเกินไป

ฉีดโบลดกรามที่ Skinserity ดีอย่างไร?

การฉีดโบท็อกลดกรามนั้นสามารถช่วยแก้ปัญหาหน้าบานกรามใหญ่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังสามารถช่วยให้ใบหน้าดูเรียวสวยได้รูป ดูละมุน แต่เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุด แนะนำให้เลือกใช้บริการคลินิกที่ได้มาตรฐาน ไม่ควรเห็นแก่บริการที่นำเสนอในราคาถูก เพราะอาจเป็นคลินิกเถื่อนที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจใช้โบท็อกปลอมที่อาจทำให้เกิดการดื้อโบหรืออาจเกิดอันตรายต่อร่างกาย

ที่คลินิก Skinserity มีบริการฉีดโบลดกรามโดยแพทย์ผู้มากไปด้วยทักษะและประสบการณ์ อีกทั้งยังใช้โบของแท้ที่ได้มาตรฐานและผ่านการรับรองมาตรฐานจากองค์การอาหารและยาประเทศไทย เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่สามารถเห็นได้อย่างชัดเจน

ขั้นตอนการรักษา

1. Consultation

วางแผนการรักษาของคุณกับผู้เชี่ยวชาญของเรา

2. Treatment
  • ทำความสะอาดผิวของคุณ
  • ทำเครื่องหมายบริเวณการรักษาของคุณ
  • เลือกโบท็อกซ์ที่เหมาะสม
3. After Treatment Care
  • การดูแลส่วนบุคคลจากผู้เชี่ยวชาญของเรา
  • หลีกเลี่ยงการนอนราบเป็นเวลา 4-6 ชั่วโมงหลังการรักษา
  • หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่เข้มข้นภายใน 24 ชั่วโมงแรก
  • หลีกเลี่ยงความร้อนโดยตรง เช่น ซาวน่า และออนเซ็น เป็นเวลา 2 สัปดาห์
  • หลีกเลี่ยงการนวดหน้าบริเวณที่ฉีดเป็นเวลา 2 สัปดาห์

รีวิวจากลูกค้าของเรา

มั่นใจด้วยรีวิวจากลูกค้าของเรา

ลูกค้าของเราคิดอย่างไร

จริงใจ อบอุ่น และปลอดภัย

5.0
“บรรยากาศอบอุ่น สะอาด ตกแต่งเรียบร้อย เพิ่งไปฉีด Botox ครั้งแรกในรอบ 5 ปี คุณหมอมีประสบการณ์และจริงใจมาก จะกลับมาอีกแน่นอน!”
-
Chitnarong Visessompark
5.0
"พนักงานอบอุ่นเป็นกันเองมาก คุณหมอมืออาชีพ รู้สึกเหมือนอยู่บ้าน ไม่เหมือนคลินิกผิวหนังอื่นๆ"
-
Bobby Srisawas
5.0
“คลินิกอยู่ในทำเลที่สะดวกมาก ได้รับการต้อนรับอย่างดีทันทีที่มาถึง สภาพแวดล้อมสะอาดมาก ขอขอบคุณและแนะนำให้มาปรึกษาคุณหมอปรางค์ปราที่ทำงานดีเยี่ยม และรู้สึกขอบคุณสำหรับความเป็นมืออาชีพและความจริงใจของคุณหมอที่นี่ค่ะ”
-
Kusang Chung

วางแผนการดูแลผิวของคุณกับเราวันนี้