ดริปวิตามิน

เติมสารอาหารและวิตามินให้แก่ผิว บำรุงผิวหน้าและผิวกาย ผิวขาวสวยใสดูสุขภาพดี
ดริปวิตามิน
ระยะเวลาการรักษา
30 - 90 นาที
เวลาพักฟื้น
-
ระยะเวลาของผลลัพธ์
-
ราคา
เริ่มที่ 2500 บาท

ดริปวิตามินดียังไง? ใช่ทางลัดเพื่อผิวสวย ขาว ใสหรือไม่?

ผิวขาวสวยใสดูสุขภาพดี คงเป็นผิวในฝันของทุก ๆ คนไม่ว่าจะเพศไหนวัยไหน แต่ด้วยปัจจัยหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นสภาพอากาศ แดดอันร้อนแรง รวมไปถึงพันธุกรรม ที่อาจทำให้ไม่สารถมีผิวขาวสวยใสได้ หลาย ๆ คนจึงกำลังมองหาทางลัดเพื่อผิวขาวใสกันมาอย่างยาวนาน

และด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้มีนวัตกรรมใหม่ ๆ เพื่อการดูแลผิวให้ขาวใสให้เลือกใช้บริการมากมาย หนึ่งในนั้นคือการดริปวิตามินซึ่งเป็นบริการที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก

ดริปวิตามินผิว IV Drip คืออะไร?

การดริปวิตามินผิว หรือการฉีดวิตามินผิว (Intravenous Vitamin therapy หรือ IV Drip) เป็นการเติมสารอาหารและวิตามินให้แก่ผิวในรูปแบบของ IV (Intravenous) หรืออธิบายง่าย ๆ ก็คือการฉีดสารอาหารผิวผ่านทางหลอดเลือดดำผ่านการฉีดยาเข้าเส้นเลือดบนแขนหรือในบริเวณส่วนอื่นของร่างกาย เพื่อให้ผิวได้รับสารอาหารและวิตามินอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงสุด 

การฉีดดริปวิตามินผิวเหมาะกับการใช้สำหรับผู้ที่ต้องการบำรุงผิวหน้าหรือผิวกายในระยะเวลาสั้น ๆ  โดยสารที่ฉีดเข้าไปนั้นจะเป็นสารอาหารและวิตามินที่ช่วยบำรุงผิวหน้าและผิวกาย ไม่ว่าจะเป็นวิตามิน C วิตามิน E กรดไฮยาลูรอนิค (Hyaluronic acid) กรดอะมิโน (Amino acids) และสารอื่น ๆ ที่มีคุณสมบัติในการช่วยปรับสภาพผิวและเสริมสร้างความแข็งแรงของเนื้อเยื่อให้ผิวดูสมบูรณ์และอ่อนเยาว์ขึ้น

drip วิตามินผิวมีประโยชน์ยังไง?

การดริปวิตามินผิวนั้น มีประโยชน์หลัก ๆ ก็คือการบำรุงผิวอย่างล้ำลึกในระยะเวลาสั้น ๆ เรียกว่าเป็นนวัตกรรมที่เอาใจวัยรุ่นใจร้านที่ต้องการเห็นผลลัพธ์ผิวใสอย่างรวดเร็วทันท่วงที เนื่องจากการฉีดวิตามินดริปนั้น ร่างกายสามรถดูดซึมสารอาหารไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าและรวดเร็วมากกว่า แต่นอกจากประโยชน์เรื่องความรวดเร็วในการเห็นผลแล้ว การ drip วิตามินผิวก็มีประโยชน์ ดังนี้

  • ช่วยบำรุงและซ่อมแซมร่างกาย
  • ช่วยฟื้นฟูผิวให้กลับมาแข็งแรงเปล่งปลั่งกระจ่างใสอย่างรวดเร็ว
  • ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ป้องกันปัญหาการเกิดริ้วริอยก่อนวัย
  • ช่วยสมานแผลให้แผลหายไวมากยิ่งขึ้น จึงเหมาะกับผู้ที่ขาดวิตามินซี
  • กระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย ให้ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง
  • ลดอาการเหนื่อยล้า อ่อนเพลีย เหมาะกับนักกีฬาหรือผู้ที่กำลังอยู่ในช่วงฟื้นฟูร่างกาย

ทำ iv drip ปลอดภัยไหม?

การทำ iv drip นั้นถือว่าเป็นวิธีการที่ปลอดภัย แต่ทั้งนี้จะต้องเลือกใช้บริการจากคลินิกที่เชื่อถือได้ รวมไปถึงใช้บริการกับแพทย์ผู้มีความเชี่ยวชาญ เนื่องจากการทำ iv drip นั้นจะต้องมีการซักประวัติ ตรวจร่างกาย รวมไปถึงการเลือกชนิดหรือสูตรของวิตามินด้วย วิตามินที่จะนำมาใช้ฉีดเข้าสู่ร่างกายก็ควรเป็นของแท้ที่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา

ดริปวิตามินเหมาะกับใครบ้าง?

การทำดริปวิตามินนั้นถือเป็นวิธีการเติมวิตามินเข้าสู่ผิวที่มอบผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็ว โดยการทำดริปวิตามิน เหมาะกับผู้ที่ต้องการผลลัพธ์ ดังนี้

  • ต้องการให้ผิวกระจ่างใสอย่างรวดเร็ว
  • ผู้ที่ยุ่งมาก ไม่มีเวลาดูแลตัวเอง แต่อยากได้ผลลัพธ์ผิวใสในเวลาสั้น ๆ
  • ผู้ที่ต้องการเปลี่ยนแปลงสภาพผิวจากภายในสู่ภายนอก
  • ผู้ที่กำลังมองหาทางเลือกอื่นในการดูแลผิวนอกเหนือจากการยิงเลเซอร์หรือการใช้ครีมต่าง ๆ
  • ผู้ที่ต้องการเติมวิตามินหรือคอลลาเจนสู่ผิวอย่างเร่งรัด
  • ผู้ที่พักผ่อนไม่เพียงพอ รู้สึกอ่อนเพลีย ไม่สดชื่น แต่อยากคืนความกระปรี้กระเปร่าให้ร่างกาย
  • ผู้ที่ต้องการกระตุ้นระบบเผาผลาญให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ดริปวิตามินไม่เหมาะกับใคร?

ถึงแม่ว่าการดริปวิตามินนั้นจะมีความปลอดภัยและมอบคุณประโยชน์ต่อผิวและร่างกายได้มากมาย แต่ทั้งนี้ก็ยังมีข้อควรระวังสำหรับคนบางกลุ่ม เช่น

  • คุณแม่ที่กำลังอยู่ในช่วงตั้งครรภ์หรือในช่วงให้นมบุตร
  • ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบไหลเวียนเลือด ความดันสูง
  • ผู้ป่วยโรคหัวใจ
  • ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่ยังฉีดอินซูลินอยู่
  • ผู้ที่มีปัญหาหรือป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับระบบภูมิคุ้มกัน
  • ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคตับ โรคไต
  • ผู้ที่มีภาวะวิตามินหรือแร่ธาตุเกิน
  • ผู้ที่มีภาวะพร่องเอนไซม์หรือมีภาวะเม็ดเลือดแดงแตก

นอกเหนือจากผู้ที่กำลังประสบภาวะข้างต้นแล้วนั้น ยังมีข้อจำกัดอีกมากมายที่จำเป็นต้องมีการตรวจสุขภาพร่างกายก่อนทำการดริปวิตามินทุกครั้ง ดังนั้น หากใช้ยาอะไรอยู่หรือมีปัญหาสุขภาพด้านไหน แนะนำให้แจ้งให้แพทย์ทราบด้วย

ฉีดวิตามินผิวบริเวณไหนได้บ้าง?

โดยปกติแล้ว ร่างกายของเราจะได้รับสารอาหารและวิตามินต่าง ๆ ผ่านการกินอาหารหรืออาหารเสริมต่าง ๆ ซึ่งสารอาหารเหล่านั้นจะผ่านระบบย่อยในร่างกายและใช้เวลานานกว่าที่ร่างกายจะสามารถดูดซึมและนำไปใช้ได้ นอกจากนี้ เมื่อสารอาหารเหล่านั้นผ่านกระบวนการย่อย ก็จะยิ่งสูญเสียคุณค่าทางอาหารเข้าไปอีก ดังนั้น การฉีดวิตามินจึงเป็นการช่วยให้ร่างกายสามารถใช้ประโยชน์จากสารอาหารได้อย่างรวดเร็วและเต็มที่

การฉีดวิตามินผิวนั้นจะทำการฉีดด้วยสายน้ำเกลือเข้าสู่เส้นเลือดดำ โดยบริเวณที่ฉีดที่นิยมกันจะเป็นบริเวณข้อพับแขน ซึ่งเป็นวิธีการเติมเต็มสารอาหารเข้าสู่ร่างกายได้โดยตรง ทำให้เห็นผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ร่างกายสามารถดูดซึมนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างรวดเร็ว

ดริปวิตามินมีกี่แบบ?

การฉีดดริปวิตามินผิวปัจจุบันมีอยู่ด้วยกัน 2 แบบ คือ

การฉีดดริปวิตามินแบบเข็มไซริงค์

เป็นการฉีดวิตามินเข้าสู่เส้นเลือดดำผ่านเข็มฉีดยาที่บรรจุสารอาหารและวิตามินต่าง ๆ ไว้ วิธีการฉีดโดยใช้เข็มฉีดยาไซริงค์นั้นสามารถฉีดได้หลายบริเวณ และนิยมใช้ฉีดผิวที่บริเวณใบหน้าโดยตรง (เรียกวิธีการฉีดนี้ว่าการฉีดมาเด้) ผลลัพธ์ที่ได้จะไปเน้นซ่อมแซมผิวที่บริเวณใบหน้า ลดสิวอุดตัน และช่วยทำความสะอาดสิ่งสกปรกตกค้างได้อย่างหมดจด

การฉีดดริปวิตามินแบบถุงน้ำเกลือ

เป็นการฉีดที่เหมือนกับการให้น้ำเหลือโดยจะต้องทำการเจาะเข็มซึ่งเชื่อมกับสายถุงเก็บวิตามินหรือสารอาหาร ขณะทำการฉีดจะต้องนั่งรอจนกว่าสารวิตามินในถุงไหลเข้าสู่เส้นเลือดดำจนหมด วิธีนี้จะเหมือนกับการให้สายน้ำเกลือคนไข้ในโรงพยาบาลนั่นเอง

ก่อนฉีดวิตามินต้องเตรียมตัวยังไงบ้าง?

ขั้นตอนการฉีดวิตามินผิว ตั้งแต่การซักประวัติ ตรวจร่างกาย และฉีดวิตามินเข้าสู่ผิวปล่อยให้เป็นหน้าที่ของแพทย์ได้เลย แต่สำหรับเราในฐานะผู้ใช้บริการนั้นก็ไม่ได้มีอะไรต้องเตรียมตัวมากนัก แต่แนะนำให้แจ้งแพทย์ให้รับทราบถึงประวัติด้านสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นโรคประจำตัว ยา อาหารเสริม หรือสมุนไพรที่ใช้อยู่ เพื่อให้แพทย์รับทราบและประเมิน รวมไปถึงป้องกันผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากเงื่อนไขด้านสุขภาพได้

นอกจากนี้ ก่อนที่จะเข้ารับบริการฉีดวิตามินผิวยังควรต้องสำรวจความต้องการของตัวเองเสียก่อนว่าต้องการผลลัพธ์ของการฉีดดริปวิตามินเพื่ออะไร จากนั้นให้แจ้งให้แพทย์ทราบเพื่อให้แพทย์เลือกสูตรวิตามินได้อย่างตรงตามความต้องการ

ขั้นตอนการดริปวิตามิน

สำหรับขั้นตอนการดริปวิตามินผิวนั้นเรียกได้ว่ามีขั้นตอนที่เรียบง่ายและไม่ซับซ้อน ระยะเวลาในการทำจะใช้เวลารวมทั้งหมดไม่เกิน 1 ชั่วโมงครึ่ง โดยขั้นตอนต่าง ๆ ในการดริปวิตามิน มีดังนี้

  1. ชั่งน้ำหนัก วัดส่วนสูง และวัดความดันโลหิต
  2. เจ้าหน้าที่จะทำความสะอาดผิวในบริเวณที่จะฉีดดริปวิตามิน
  3. เจ้าหน้าที่เจาะเข็มเข้าเส้นเลือดดำและเริ่มฉีดวิตามินเข้าสู่หลอดเลือด
  • หากเป็นการฉีดด้วยเข็มไซริงค์ แพทย์จะค่อย ๆ ฉีดสารเข้าสู่เส้นเลือดอย่างช้า ๆ
  • หากเป็นการฉีดด้วยถุงน้ำเกลือ จะต้องนั่งรอจนกว่าวิตามินจะเข้าสู่เส้นเลือดไปหมด
  1. หลังฉีดเสร็จเรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่จะนำเข็มออก และปกปิดผิวในส่วนที่ทำการเจาะเข็มด้วยพลาสเตอร์ จากนั้นก็สามารถกลับบ้านได้เลยโดยไม่ต้องพักฟื้น

การดูแลตัวเองหลังดริปวิตามิน

หลังจากที่ดริปวิตามินเข้าสู่ผิวเรียบร้อยแล้ว แพทย์จะมีวิธีการดูแลตัวเองแนะนำให้กลับไปทำเองที่บ้าน เพื่อให้สารอาหารและวิตามินต่าง ๆ ที่ฉีดเข้าสู่ร่างกายคงอยู่ได้ยาวนานและกระตุ้นให้สามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างเต็มประสิทธิภ่พ วิธีการดูแลตัวเองหลังฉีดดริปวิตามิน มีดังนี้

  • หลีกเลี่ยงการสัมผัสโดนแดดแรง ๆ หากไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ให้ทาครีมกันแดดที่มี SPF สูง ๆ และใสหมวกหรือกางร่วมด้วย เพราะแสงแดดอาจยิ่งไปทำให้ผิวหมองคล้ำ
  • งดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือสูบบุหรี่ เพราะอาจทำให้วิตามินออกฤทธิ์อย่างไม่เต็มประสิทธิภาพ อีกทั้งยังดีต่อสุขภาพในระยะยาวด้วย
  • หมั่นทาครีมบำรุงผิวและเติมเต็มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวอยู่เสมอ
  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอต่อร่างกาย
  • พักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

การดูแลตัวเองหลังดริปวิตามินเรียกง่าย ๆ ก็เหมือนกับการดูแลตัวเองในชีวิตประจำวันทั่ว ๆ ไป ไม่ว่าจะเป็นการดื่มน้ำให้เพียงพอ ทานอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนอย่างเพียงพอ รวมไปถึงการออกกำลังกายเพื่อรักษาร่างกายให้แข็งแรงอยู่เสมอ

ฉีดวิตามินผิวกี่ครั้งเห็นผล?

การฉีดวิตามินผิวไสนั้นเป็นการฉีดสารจำพวกวิตามินซี สารอาหารผิวต่าง ๆ ที่มีคุณสมบัติในการต่อต้านอนุมูลอิสระเพื่อให้ผิวดูเปล่งปลั่งกระจ่างใสและดูสุขภาพดีมากยิ่งขึ้น โดยระยะเวลาที่จะเห็นผลนั้นจะอยู่ที่ประมาณ 3 สัปดาห์ แต่ทั้งนี้ก็ยังขึ้นอยู่กับปัจจัยด้านสภาพผิวของแต่ละคนและความถี่ในการฉีดด้วย

ในระยะแรกของการฉีดวิตามินผิวอาจฉีดได้ประมาณสัปดาห์ละ 1 ครั้ง เมื่อผิวเริ่มมีสุขภาพดีขึ้นแล้วก็สามารถขยับมาฉีดเป็นสัปดาห์ละ 1 ครั้งได้ และหากต้องการคงผลลัพธ์ไว้ให้อยู่ยาวนาน แนะนำให้ฉีดอย่างสม่ำเสมออย่างต่อเนื่อง

ข้อควรระวังจากการทำ iv drip

การฉีด iv drip นั้นถือว่าเป็นขั้นตอนที่สามารถทำได้อย่างปลอดภัยหากเลือกใช้บริการคลินิกที่ แต่ทั้งนี้การทำ iv drip ก็ยังมีข้อจำกัดอยู่หลากหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นผลลัพธ์ที่ไม่อาจเห็นผลได้อย่างทันท่วงที ต้องเข้ารับบริการหลายครั้ง อีกทั้งผลลัพธ์นั้นก็ไม่คงทนถาวร ต้องฉีดซ้ำเรื่อย ๆ 

สำหรับสิ่งที่ควรระวังเป็นอย่างแรกในการทำ iv drip คือ การใช้วิตามินที่ไม่ได้มาตรฐานหรือไม่ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา  เพราะอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงต่อร่างกายอย่างรุนแรงได้ โดยอาการนั้นมีตั้งแต่คลื่นไส้ อาเจียน ความดันต่ำ ช็อกหมดสติ หรือร้ายแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้

การเลือกสถานบริการหรือคลินิกที่เชื่อถือได้และให้บริการอย่างเป็นมาตรฐานจะช่วยสร้างความมั่นใจได้ เพราะสามารถตรวจสอบได้ และมั่นใจได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ว่าสารที่ใช้นั้นได้มาตรฐานและได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา

นอกจากนี้ ความชำนาญของคุณหมอก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะการฉีดสารใด ๆ เข้าร่างกายจะต้องผ่านการคำนวณและผ่านการประเมินให้ได้สารที่พอดีและเหมาะสมต่อร่างกายของแต่ละคน การได้รับสารมากเกินไปหรือฉีดบ่อยจนเกินไปอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงต่อร่างกายได้ เช่น

  • ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ
  • ระบบเลือดล้มเหลว
  • เลือดออกผิดปกติ
  • คลื่นไส้อาเจียนรุนแรง
  • ปวดหัว ปวดเมื่อยตามร่างกาย
  • การมองเห็นพร่ามัว
  • แสบร้อนกลางอก
  • เป็นตะคริว
  • เม็ดเลือดแดงแตก ทำให้เกิดภาวะโลหิตจาง
  • ความดันโลหิตสูง
  • เกิดอาการช็อก และอาจเสียชีวิตได้

เลือกทำ iv drip ที่ไหนดี?

สำหรับใครที่กำลังติดสินใจเลือกทำ iv drip แนะนำให้เลือกใช้บริการคลินิกที่ได้รับการรับรองมาตรฐานความปลอดภัยและการให้บริการ เพื่อความมั่นใจในผลลัพธ์ ประสิทธิภาพ และความปลอดภัย

สำหรับเคล็ดลับในการเลือกใช้บริการคลินิกหรือสถานบริการต่าง ๆ สามารถเลือกได้โดยพิจารณาเลือกคลินิกหรือสถานบริการที่ให้บริการอย่างมีมาตรฐาน ปลอดภัย มีใบอนุญาตประกอบการอย่างถูกต้อง และให้บริการในราคาที่สมเหตุสมผล นอกจากนี้ ยังควรหลีกเลี่ยงการใช้บริการจากหมอกระเป๋า เพราะเราไม่สามารถมั่นใจได้เลยว่าวิตามินที่ใช้นั้นปลอดภัยและได้มาตรฐานการรับรองจากองค์การอาหารและยาหรือไม่ 

ทำไมต้องดริปวิตามินที่ Skinserity?

ที่ Skinserity มีบริการฉีดวิตามินด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้บริการและคำแนะนำอย่างเต็มที่ อีกทั้งยังมาในราคาที่สมเหตุสมผล และใช้วิตามินที่ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา การันตีด้วยรีวิวจากผู้ใช้บริการจริง

ขั้นตอนการรักษา

Consultation
  • ปรึกษาแผนการรักษาแบบส่วนตัวกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของเรา
  • การวางแผนโปรแกรม IV
After treatment care 
  • ดูแลหลังการรักษาอย่างใกล้ชิดและเป็นส่วนตัวด้วยทีมงานมืออาชีพของเรา
  • ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น!
Treatment
  • เข็มขนาดเล็กที่มี cannula จะถูกสอดเข้าไปในเส้นเลือดที่แขนซ้ายหรือขวาของคุณ
  • การรักษาด้วย IV ใช้เวลา 30-45 นาที
  • เราจัดเตรียมสภาพแวดล้อมที่เป็นส่วนตัวและอบอุ่นในห้อง IV ของเราให้กับคุณ คุณยังสามารถเพลิดเพลินกับบริการ WIFI ฟรีและ netflix ของเราได้อีกด้วย

รีวิวจากลูกค้าของเรา

มั่นใจด้วยรีวิวจากลูกค้าของเรา

ลูกค้าของเราคิดอย่างไร

จริงใจ อบอุ่น และปลอดภัย

5.0
“บรรยากาศอบอุ่น สะอาด ตกแต่งเรียบร้อย เพิ่งไปฉีด Botox ครั้งแรกในรอบ 5 ปี คุณหมอมีประสบการณ์และจริงใจมาก จะกลับมาอีกแน่นอน!”
-
Chitnarong Visessompark
5.0
"พนักงานอบอุ่นเป็นกันเองมาก คุณหมอมืออาชีพ รู้สึกเหมือนอยู่บ้าน ไม่เหมือนคลินิกผิวหนังอื่นๆ"
-
Bobby Srisawas
5.0
“คลินิกอยู่ในทำเลที่สะดวกมาก ได้รับการต้อนรับอย่างดีทันทีที่มาถึง สภาพแวดล้อมสะอาดมาก ขอขอบคุณและแนะนำให้มาปรึกษาคุณหมอปรางค์ปราที่ทำงานดีเยี่ยม และรู้สึกขอบคุณสำหรับความเป็นมืออาชีพและความจริงใจของคุณหมอที่นี่ค่ะ”
-
Kusang Chung

วางแผนการดูแลผิวของคุณกับเราวันนี้