โบท็อกซ์ลิฟกรอบหน้า

ลิฟกรอบหน้าให้ดูกระชับได้รูปนั้นเป็นการทำให้หน้าดูยกกระชับ เห็นแนวกรามชัดเจน ให้ใบหน้าดูเรียว มีมิติ
โบท็อกซ์ลิฟกรอบหน้า
ระยะเวลาการรักษา
20 นาที
เวลาพักฟื้น
ไม่มี
ระยะเวลาของผลลัพธ์
3-6 เดือน
ราคา
เริ่มที่ 3,000 บาท

โบท็อกลิฟกรอบหน้าคืออะไร? ฉีดแล้วช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง

โบท็อกลิฟกรอบหน้าได้กลายเป็นหนึ่งในนวัตกรรมที่ได้รับการยอมรับและเป็นที่นิยมมากที่สุดอีกนวัตกรรมหนึ่งในยุคนี้ เพราะเทรนด์ความงามหน้า กระชับและเรียวเล็ก กรอบหน้าโครงหน้าชัด และนวัตกรรม botox lift กรอบหน้าก็ตอบโจทย์เทรนด์ความงามนี้มาก

โบท็อกลิฟหน้าคืออะไร?

โบท็อกลิฟกรอบหน้า เป็นนวัตกรรมการฉีดสารโบทูลินัมท็อกซินเข้าไปที่บริเวณกรอบหน้า เพื่อให้ผิวบริเวณกรอบหน้าดังกล่าวเกิดการยกกระชับ ให้ใบหน้าดูเรียว มีมิติมากยิ่งขึ้น โดยจะเริ่มเห็นผลได้อย่างชัดเจนหลังฉีดไปประมาณ 2 สัปดาห์

การฉีดโบเพื่อลิฟกรอบหน้าให้ดูกระชับได้รูปนั้นเป็นการทำให้หน้าดูยกกระชับ เห็นแนวกรามชัดเจนโดยไม่ต้องเข้ารับการผ่าตัด จึงไม่ทำให้ต้องเสียเวลาพักฟื้น ไม่เจ็บ และไม่มีแผลเป็น อีกทั้งยังสามารถเห็นผลลัพธ์ได้อย่างรวดเร็วทันใจอีกด้วย

ฉีดโบลิฟกรอบหน้ามีข้อดี-ข้อเสีย อะไรบ้าง?

มีเหตุผลอยู่เบื้องหลังความนิยมในการฉีดโบลิฟกรอบหน้า เพราะการฉีดโบกรอบหน้านั้นมีข้อดีมากมาย แต่ทั้งนี้ก็ยังมีข้อเสียที่ต้องตระหนักไว้ด้วยเช่นเดียวกัน

ข้อดี

  • เป็นวิธีที่สะดวก รวดเร็ว สามารถเห็นผลลัพธ์ได้ในระยะเวลาสั้น ๆ
  • ช่วยให้กรอบหน้าดูเรียว กระชับ และได้รูป
  • ไม่ต้องผ่าตัด ไม่เจ็บตัว และไม่ต้องพักฟื้น
  • สามารถฉีดโบกรอบหน้าร่วมกับการทำหัตถการกระชับใบหน้าอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ดียิ่งขึ้น เช่น อัลเทอร่าหรือฟิลเลอร์ และสามารถทำได้ในวันเดียวกัน
  • สามารถฉีดซ้ำได้โดยไม่เป็นอันตรายต่อร่างกายและผิวหน้าอย่างใด 
  • สามารถทำได้ทั้งเพศชายและเพศหญิงโดยให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ

ข้อเสีย

  • ผลลัพธ์ไม่ถาวร ควรฉีดซ้ำทุก 4-6 เดือน
  • บริเวณผิวหนังอาจมีรอยช้ำจากเข็มได้เล็กน้อยหลังหัตถการ แต่ไม่เกิน 1 สัปดาห์

ฉีดโบลิฟกรอบหน้า กับฉีดโบลดกราม ต่างกันอย่างไร?

สำหรับบางคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับมือใหม่ที่เพิ่งเข้าวงการฉีดโบ อาจจะเกิดอาการสับสนกันอยู่เล็กน้อยว่าการฉีดโบลิฟกรอบหน้ากับการฉีดโบลดกรามนั้นมีความแตกต่างกันอย่างไร ทั้งสองอาจดูมีความคล้ายคลึงกัน แต่มีความแตกต่างกัน ดังนี้

  • การฉีดโบลิฟกรอบหน้า จะเป็นการฉีดชั้นผิวตื้นที่บริเวณกรอบหน้าและลำคอเพื่อให้ผิวหนังถูกดึงเรียบตึงขึ้น ส่งผลให้ใบหน้าดูเรียวสวย ช่วงคอดูเรียวยาว และกรอบหน้าดูคมชัด
  • การฉีดโบลดกราม เป็นการฉีดที่บริเวณกล้ามเนื้อกราม(Masseter)โดยตรงเพื่อให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นเกิดการคลายตัว ทำให้ใบหน้าดูเล็กเรียวขึ้น เหมาะกับคนกรามใหญ่ ที่ต้องการแก้ไขปัญหารูปหน้าให้เล็กเรียวลง หรือมีปัญหานอนกัดกราม กรามค้าง (Jaw locking) หรือ โรคปวดหัวไมเกรนเรื้อรัง 

เทคนิคลิฟกรอบหน้า

สำหรับการฉีดโบลิฟหน้านั้น โดยทั่ว ๆ ไป เทคนิคการฉีดโบลิฟกรอบหน้าจะมีด้วยกัน 2 แบบ คือ เทคนิคการฉีดโบแบบ Dermo Lift กับอีกเทคนิคหนึ่ง คือ การฉีดโบแบบ Nefertiti Lift

  1. เทคนิค Dermo Lift เป็นการฉีดโบตามแนวกรอบหน้าจากด้านล่างขึ้นไปด้านบน ผลลัพธ์ที่ได้คือผิวบริเวณกรอบหน้าดูยกกระชับขึ้น เหมาะกับผู้ที่ต้องการเห็นผลลัพธ์อย่างเร่งด่วน 
  2. เทคนิค Nefertiti Lift เป็นการฉีดโบที่บริเวณกล้ามเนื้อลำคอ ซึ่งผลลัพธ์จะอยู่ได้นานกว่า เพราะกล้ามเนื้อบริเวณนี้เป็นกล้ามเนื้อส่วนที่ดึงผิวลงมาซึ่งทำให้ใบหน้าหย่อนคล้อย หลังฉีดแล้วจึงทำให้ให้กล้ามเนื้อบริเวณนั้นแข็งแรง และสามารถดึงผิวหน้าให้ตึงกระชับ

ฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้าใช้กี่ยูนิต

ปริมาณการฉีดโบลิฟกรอบหน้านั้นขึ้นอยู่กับการประเมินที่คุณหมอจะประเมินให้แต่ละคน โดนส่วนมากจะเริ่มที่ 40-50 ยูนิต และสามารถฉีดได้ถึง 100 ยูนิต ซึ่งขึ้นอยู่กับแต่ละเคส ทั้งนี้ การฉีดโบลิฟหน้านั้นสามารถฉีดได้ทุกช่วงอายุ แถมยังสามารถช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนบนผิวหน้าได้ในระยะยาว

ฉีดโบลิฟหน้าเหมาะกับใครบ้าง?

อย่างที่ได้กล่าวในข้างต้น ว่าการฉีดโบนั้นสามารถฉีดได้ทุกช่วงอายุโดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายใด ๆ โดยผู้ที่เหมาะกับการฉีดโบ คือ ผู้ที่กรอบหน้าเริ่มหย่อนคล้อย ผู้ที่เคยผ่าตัดโครงหน้า หรือเคยผ่าตัดกระดูกออก ทำให้ผิวหย่อนคล้อย กรอบหน้าดูไม่ชัด นอกจากนี้ การฉีดโบลิฟหน้ายังเหมาะกับผู้ที่มีปัญหากรามใหญ่จากกล้ามเนื้อ ซึ่งสามารถฉีดร่วมกับโบหน้าเรียวได้

ทั้งนี้การฉีดโบสามารถเริ่มฉีดได้ในผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 20 ปีขึ้นไป มีการศึกษาวิจัยระบุว่ายิ่งฉีดไวเท่าไหร่หรือฉีดตอนอายุยังน้อย ๆ เท่าไหร่ ก็จะยิ่งช่วยปกป้องผิวจากริ้วรอยของอายุได้ดีมากยิ่งขึ้นเท่านั้น ดังนั้น การฉีดโบจึงไม่ได้มีการจำกัดอายุแต่อย่างใด

ฉีดโบท็อกลิฟหน้าอยู่ได้นานแค่ไหน?

การฉีดโบลิฟกรอบหน้าจะมีด้วยกัน 2 แบบ คือ การฉีดแบบเทคนิค Dermo Lift ซึ่งผลลัพธ์สามารถอยู่ได้ยาวนานประมาณ 1-2 เดือน ส่วนการฉีดแบบเทคนิค Nefertiti Lift ผลลัพธ์จะอยู่ได้ยาวนานประมาณ 3-4 เดือน

ฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้ามีข้อเสียไหม?

โดยทั่ว ๆ ไปแล้ว การฉีดโบกรอบหน้านั้นไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด หากใช้บริการคลินิกที่ได้มาตรฐานและคุณหมอที่มีทักษะและประสบการณ์ แต่ต้องระมัดระวังใช้บริการคลินิกเถื่อน หมอเถื่อน เพราะอาจใช้โบผสมน้ำเกลือในปริมาณมากจนไม่เห็นผล หรือใช้ผลิตภัณท์ปลอม หรือไม่ผ่าน อย. ที่อาจทำให้เกิดอาการดื้อโบได้ 

นอกจากนี้ ข้อจำกัดอีกอย่างของการฉีดโบลิฟกรอบหน้าคือผลลัพธ์จะคงอยู่ได้ 3-4 เดือนเท่านั้น ซึ่งบางคนอาจจะรู้สึกว่าอยู่ได้ไม่ยาวนาน อีกทั้งยังเป็นผลลัพธ์ที่ไม่คงทนถาวร ต้องมาฉีดย้ำ ๆ อยู่เสมอ

ดูแลตัวเองหลังฉีดโบท็อกลิฟกรอบหน้ายังไง?

หลังจากฉีดโบกรอบหน้าแล้ว คุณหมอจะมีคำแนะนำและข้อปฏิบัติตัวหลังฉีด ดังนี้

  • ควรขยับเกร็งกล้ามเนื้อบริเวณที่ฉีดทันทีหลังฉีดเพื่อให้สารกระจายตัวได้ดี
  • ทาน Zinc เพื่อให้สารสามารถออกฤทธิ์ได้ดีมากยิ่งขึ้น
  • ห้ามนอนราบเป็นระยะเวลา 4 ชั่วโมงหลังฉีด
  • หลีกเลี่ยงกิจกรรมทุกชนิดที่ทำให้เกิดความร้อน หรือสัมผัสกับความร้อน อาทิเช่น ซาวน่า หรือแช่ออนเซน เป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์
  • งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่เป็นระยะเวลาประมาณ 1 สัปดาห์

เลือกฉีดโบท็อกลิฟหน้าที่ไหนดี?

สำหรับใครที่ตัดสินใจแล้วว่าจะไปฉีดโบลิฟหน้าเรียว ก่อนจะเข้ารับบริการที่คลินิกใด ๆ แนะนำให้เลือกหลังจากได้ทำการศึกษาหาข้อมูลก่อน ดังนี้

  • หาอ่านรีวิวจากผู้ใช้บริการคลินิกจริง (ไม่ใช่รีวิวจ้าง) 
  • พิจารณาด้านราคาที่เหมาะสมกับงบประมาณที่ตั้งไว้
  • หาอ่านเคสรีวิวคุณหมอผู้ให้บริการ

เพื่อความปลอดภัย แนะนำว่าไม่ควรเลือกคลินิกที่เห็นแก่ราคาถูก เพราะอาจเป็นคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน การจะเลือกว่าจะฉีดโบลิฟหน้าที่ไหนดีควรพิจารณาเรื่องของการให้บริการที่ได้มาตรฐานเป็นหลัก เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ได้ผลตามความต้องการ

ฉีดโบลิฟหน้าที่ Skinserity ดีอย่างไร?

ที่คลินิก Skinserity มีบริการฉีดโบลิฟหน้าที่ให้ผลลัพธ์เห็นผลอย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังมีคุณหมอผู้เชี่ยวชาญที่มากไปด้วยทักษะและประสบการณ์คอยให้คำปรึกษาแนะนำในแต่ละเคส เพื่อให้แต่ละเคสได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดหลังการฉีดโบลิฟหน้า

ขั้นตอนการรักษา

1. Consultation

วางแผนการรักษาของคุณกับผู้เชี่ยวชาญของเรา

2. Treatment
  • ทำความสะอาดผิวของคุณ
  • ทำเครื่องหมายบริเวณการรักษาของคุณ
  • เลือกโบท็อกซ์ที่เหมาะสม
3. After Treatment Care
  • การดูแลส่วนบุคคลจากผู้เชี่ยวชาญของเรา
  • หลีกเลี่ยงการนอนราบเป็นเวลา 4-6 ชั่วโมงหลังการรักษา
  • หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่เข้มข้นภายใน 24 ชั่วโมงแรก
  • หลีกเลี่ยงความร้อนโดยตรง เช่น ซาวน่า และออนเซ็น เป็นเวลา 2 สัปดาห์
  • หลีกเลี่ยงการนวดหน้าบริเวณที่ฉีดเป็นเวลา 2 สัปดาห์

รีวิวจากลูกค้าของเรา

มั่นใจด้วยรีวิวจากลูกค้าของเรา

ลูกค้าของเราคิดอย่างไร

จริงใจ อบอุ่น และปลอดภัย

5.0
“บรรยากาศอบอุ่น สะอาด ตกแต่งเรียบร้อย เพิ่งไปฉีด Botox ครั้งแรกในรอบ 5 ปี คุณหมอมีประสบการณ์และจริงใจมาก จะกลับมาอีกแน่นอน!”
-
Chitnarong Visessompark
5.0
"พนักงานอบอุ่นเป็นกันเองมาก คุณหมอมืออาชีพ รู้สึกเหมือนอยู่บ้าน ไม่เหมือนคลินิกผิวหนังอื่นๆ"
-
Bobby Srisawas
5.0
“คลินิกอยู่ในทำเลที่สะดวกมาก ได้รับการต้อนรับอย่างดีทันทีที่มาถึง สภาพแวดล้อมสะอาดมาก ขอขอบคุณและแนะนำให้มาปรึกษาคุณหมอปรางค์ปราที่ทำงานดีเยี่ยม และรู้สึกขอบคุณสำหรับความเป็นมืออาชีพและความจริงใจของคุณหมอที่นี่ค่ะ”
-
Kusang Chung

วางแผนการดูแลผิวของคุณกับเราวันนี้