โบท็อกซ์รักแร้

ฉีดโบท็อกรักแร้ ช่วยลดกลิ่นเหงื่อ กลิ่นตัวได้ดีขนาดไหน?

ปัญหากลิ่นเหงื่อ กลิ่นตัว เป็นอะไรที่มวลมนุษยชาติต่างหาวิธีรับมือกันมาอย่างยาวนาน ทั้งการจัดการปัญหากลิ่นตัวด้วยวิธีธรรมชาติอย่างการใช้สารส้ม หรือการประดิษฐ์คิดค้นผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายต่าง ๆ เช่น โรลออน สเปรย์ แต่หลาย ๆ คนก็ยังไม่สามารถกำจัดปัญหากลิ่นเหงื่อและกลิ่นตัวได้อย่างถาวร

สาเหตุรักแร้เปียก เหงื่อออกง่าย มีกลิ่นตัว เพราะอะไร?

ปัญหาเหงื่อออกเยอะจนส่งผลให้เกิดกลิ่นเหงื่อ กลิ่นตัว สามารถมาได้จากหลากหลายสาเหตุ เช่น

พันธุกรรม

กรรมพันธุ์ที่ส่งต่อกันมาในครอบครัว หากสมาชิกในครอบครัวมีผู้ที่มีปัญหาเหงื่อออกเยอะ มีกลิ่นเหงื่อ กลิ่นตัว ก็มีโอกาสที่จะมีกลิ่นเหงื่อหรือกลิ่นตัวได้ด้วยเช่นเดียวกัน

ฮอร์โมนไม่สมดุลหรือโรคประจำตัวบางอย่าง

ฮอร์โมนที่ไม่สมดุลก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาเหงื่อออกเยอะจนทำให้เกิดกลิ่นเหงื่อและกลิ่นตัวได้ รวมไปถึงหากมีโรคประจำตัวบางอย่างก็อาจเป็นสาเหตุให้มีกลิ่นตัวได้ เช่น โรคเบาหวาน โรคอ้วน หรือโรคที่มีความเกี่ยวข้องกับต่อมไทรอยด์

ภาวะเครียด ความวิตกกังวล

เมื่อร่างกายอยู่ในภาวะเครียดหรือวิตกกังวล เหงื่อที่ออกมาจากร่างกายจะเป็นเหงื่ออะโพไครน์ ซึ่งจะมีสารอาหารที่จะไปเป็นอาหารให้เชื้อแบคทีเรียกบนผิวหนังมากกว่าเหงื่อที่ออกในภาวะปกติซึ่งเป็นเหงื่อเอคครีน โดยเหงื่อเอคครีนจะมีแค่น้ำและเหลือเป็นส่วนประกอบเท่านั้น ซึ่งนี่เป็นเหตุผลว่าทำไมเวลาเครียดจะมีกลิ่นตัวแรงกว่าปกติ

การทานอาหารบางชนิด

อาหารที่เราทานเข้าไปเป็นปัจจัยสำคัญของการเกิดกลิ่นตัว การทานอาหารกลิ่นแรง หรือการทานเครื่องเทศบางชนิดอาจทำให้เกิดกลิ่นตัวได้ เช่น กระเทียม หอมหัวใหญ่ ผงยี่หร่า ปลา หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นต้น

สภาพอากาศร้อน

สภาพอากาศที่ร้อนจัด หรือการใส่เสื้อผ้าที่หนา ทำให้ไม่สามารถระบายได้ดี จึงทำให้ต่อมเหงื่อทำงานเยอะกว่าปกติจนเกิดเป็นกลิ่นตัวได้ และยิ่งมีปริมาณขนบนผิวหนังเยอะ ๆ ก็ยิ่งอาจทำให้เกิดการหมักหมมของแบคทีเรีย ทำให้เกิดเป็นกลิ่นตัวนั่นเอง

ทำความรู้จักการฉีดโบท็อกรักแร้คืออะไร? 

การฉีด Botox รักแร้ เป็นการฉีดสารโบทูลินัม ท็อกซิน เอ (Botulinum toxin A) เข้าไปที่บริเวณรักแร้เพื่อลดการทำงานของต่อมเหงื่อบริเวณใต้วงแขนให้ทำงานน้อยลง ผลลัพธ์ที่ได้จะคงอยู่ประมาณ 3-4 เดือน แต่ทั้งนี้ การฉีดโบรักแร้จะต้องอาศัยความแม่นยำและความเชี่ยวชาญในการฉีดและการคำนวณปริมาณสาร จึงต้องใช้บริการคลินิกที่ได้มาตรฐานและแพทย์ผู้มีความชำนาญ

ฉีดโบท็อกรักแร้ช่วยลดเหงื่ออย่างไร?

การฉีดโบท็อกลดเหงื่อที่รักแร้จะฉีดเข้าไปที่บริเวณรักแร้หรือใต้วงแขนในปริมาณข้างละ 50-100 ยูนิต โดยฉีดประมาณ 20-30 จุดเพื่อไปยับยั้งการทำงานของต่อมเหงื่อและให้ต่อมเหงื่อผลิตเหงื่อออกมาน้อยลง ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้นั้นสามารถลดเหงื่อที่ออกมาบริเวณใต้วงแขนได้มากถึง 90% 

ฉีดโบรักแร้แล้วอยู่ได้นานแค่ไหน และเมื่อไรถึงจะเห็นผล?

หนึ่งในข้อดีของการฉีดโบรักแร้ คือ ฉีดเสร็จแล้วสามารถใช้ชีวิตประจำวันหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้ตามปกติโดยไม่ต้องพักฟื้น โบจะเริ่มทำงานทันทีและเริ่มเห็นผลเมื่อฉีดไปแล้ว 2-3 วัน และจะเห็นผลเต็มที่ภายในวันที่ 7 หลังฉีด

โดยทั่ว ๆ ไปแล้วนั้น การฉีดโบรักแร้จะให้ผลลัพธ์คงอยู่ได้ยาวนานประมาณ 4-6 เดือน ทั้งนี้ ก็ขึ้นอยู่กับการดูแลสุขภาพและลักษณะการใช้ชีวิตประจำวันด้วย เช่น ผู้ที่ออกกำลังกายอยู่เป็นประจำอาจทำให้ฤทธิ์ของโบสลายไวกว่าบุคคลทั่วไปที่ไม่ได้ออกกำลังกายเป็นประจำ เพราะความร้อนอาจทำให้โบสลายไวกว่าปกติ

ใครเหมาะกับการฉีด botox รักแร้บ้าง?

หากใครที่ประสบปัญหาเหงื่อออกเยอะ แต่ไม่ได้มีปัญหาเรื่องกลิ่นตัวหรือกลิ่นเหงื่อมากก็สามารถใช้วิธีอื่นในการระงับกลิ่นกายได้โดยไม่จำเป็นต้องฉีดโบรักแร้ลดกลิ่นตัว แต่หากปัญหาเหงื่อออกมากและทำให้เกิดกลิ่นตัวจนขาดความมั่นใจและส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน การฉีดโบรักแร้ลดเหงื่อ ลดกลิ่นตัว ถือเป็นวิธีที่ตอบโจทย์ โดยการฉีดโบรักแร้ เหมาะกับผู้ที่มีปัญหา ดังนี้

• เหงื่อออกเยอะมากที่บริเวณรักแร้จนทำให้เกิดกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์
• กลิ่นเหงื่อทำให้รู้สึกไม่มั่นใจ
• ประสบปัญหาเสื้อผ้ามีรอยชื้นที่บริเวณวงแขน ส่งผลต่อบุคลิกภาพ
• ต้องการระงับปริมาณเหงื่อใต้วงแขนในระยะยาว

ข้อดีและข้อควรระวังของการฉีดโบรักแร้

ประโยชน์และข้อดีของการฉีดโบท็อกลดเหงื่อหลัก ๆ แล้วคือช่วยลดปัญหาเหงื่อออกเยอะและลดปัญหากลิ่นเหงื่อ กลิ่นตัว แต่ทั้งนี้ก็ยังมีข้อจำกัดและข้อควรระวังด้วยเช่นเดียวกัน

ข้อดี

• ลดปัญหาเหงื่อออกเยอะได้มากถึง 80%
• ปัญหากลิ่นตัว กลิ่นเหงื่อน้อยลง
• ปัญหารอยชื้นใต้วงแขนบนเสื้อผ้าน้อยลง
• รู้สึกสบายตัว ไม่ต้องกังวลเรื่องความเปียกชื้น
• รู้สึกมั่นใจในตัวเองมากขึ้น บุคลิกภาพดีขึ้น

ข้อควรระวังและข้อจำกัด

• ผลลัพธ์ที่ได้อยู่ชั่วคราว ต้องไปฉีดย้ำทุก ๆ 4-6 เดือน
• ควรเลือกใช้บริการคลินิกที่ได้มาตรฐาน เพื่อความปลอดภัย
• ใช้โบของแท้ เพื่อความปลอดภัยและหลีกเลี่ยงอาการดื้อโบ
• ระวังไม่ฉีดกับหมอเถื่อนหรือหมอที่ขาดทักษะและประสบการณ์

เตรียมตัวก่อนฉีดโบรักแร้ยังไงบ้าง?

ถึงแม้ว่าการฉีดโบรักแร้จะเป็นกระบวนการรักษาที่ง่าย สะดวก และรวดเร็ว แต่ทั้งนี้ก็ยังต้องมีการเตรียมตัวและเตรียมความพร้อมกันก่อน

• แจ้งประวัติทางด้านสุขภาพ เช่น โรคประจำตัว ยาประจำตัวที่ใช้ รวมไปถึงวิตามิน อาหารเสริม และสมุนไพรที่ใช้อยู่ เพื่อให้คุณหมอประเมินและอาจต้องมีการงดยาบางชนิด
• หากมีปัญหาที่ผิวหนัง เช่น เป็นแผล ผิวอักเสบ หรือมีอาการระคายเคือง ควรเลื่อนนัดไปก่อนจนกว่าจะหายดี
• งดทำกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดอาการผิวระคายเคืองก่อนเข้ารับบริการ 3 วัน เช่น การขัดผิว สครับผิว ยิงเลเซอร์ หรือทรีตเมนต์ผิว เป็นต้น
• งดใช้สารกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวเป็นเวลาอย่างน้อยประมาณ 3 วันก่อนเข้ารับบริการ

หลังฉีดโบรักแร้แล้วดูแลตัวเองยังไง?

หลังจากเข้ารับบริการฉีดโบรักแร้เป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น คุณหมอจะมีคำแนะนำในการดูแลตัวเองเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด

• งดใช้ผลิตภัณฑ์ลดกลิ่นเหงื่อ หรือผลิตภัณฑ์ใด ๆ ใต้วงแขนอย่างน้อย 1-2 วันหลังรับบริการ
• งดออกกำลังกายหรือทำกิจกรรมใด ๆ ที่ทำให้เกิดความร้อนประมาณ 1-2 วันหลังรับบริการ
• งดทำกิจกรรมที่อาจก่อให้เกิดอาการผิวระคายเคืองหลังเข้ารับบริการ 1-2 สัปดาห์ เช่น การขัดผิว สครับผิว ยิงเลเซอร์ หรือทรีตเมนต์ผิว เป็นต้น
• มาตามนัดแพทย์ เพื่อตรวจเช็คสภาพเหงื่อ หรือหากเหงื่อยังออกเยอะอยู่ก็จะมีการพิจารณาฉีดเพิ่มให้
• สวมเสื้อผ้าที่โปร่งสบาย ระบายอากาศได้ดี
• งดสูบบุหรี่และงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เป็นเวลา 1 สัปดาห์หลังเข้ารับบริการ

สรุปการเลือกฉีดโบท็อกรักแร้ ฉีดกับ Skinserity ดีอย่างไร?

การฉีดโบรักแร้สามารถช่วยแก้ปัญหาเหงื่อออกเยอะ จึงสามารถช่วยลดกลิ่นเหงื่อ ลดกลิ่นตัวได้มากถึง 90% แต่ทั้งนี้ควรเลือกใช้บริการคลินิกที่ได้มาตรฐาน เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ ไม่ควรเห็นแก่บริการที่นำเสนอในราคาถูก เพราะอาจเป็นคลินิกเถื่อนที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจใช้โบปลอมที่อาจทำให้เกิดการดื้อโบหรืออาจเกิดอันตรายต่อร่างกาย

ที่คลินิก Skinserity มีบริการฉีดโบรักแร้ลดเหงื่อ ลดกลิ่นตัว ด้วยแพทย์ผู้มากไปด้วยทักษะและประสบการณ์ อีกทั้งยังใช้โบของแท้ที่ได้มาตรฐานและผ่านการรับรองมาตรฐานจากองค์การอาหารและยาประเทศไทย อีกทั้งยังสามารถหาอ่านรีวิวจากเคสผู้ใช้บริการจริง