ฟิลเลอร์เติมแก้มตอบ

ฉีดแก้มตอบ ให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ ดีจริงไหม?

ใบหน้าที่ดูอ่อนเยาว์และเรียวสวยได้รูป เป็นรูปหน้าที่ใคร ๆ ต่างก็ต้องการ เพราะนอกจากจะทำให้ดูมีโครงสวยชัดแล้ว ยังทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้นได้อีกด้วย การฉีดแก้มตอบจึงได้กลายมาเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์และวิธีการที่หลาย ๆ คนเลือกใช้เพื่อตอบโจทย์ใบหน้าดูอ่อนเยาว์ และดูสวยได้รูป

แก้มตอบ เกิดจากอะไร?

ปัญหาหน้าตอบ แก้มตอบนั้น เป็นการที่แก้มมีจุดที่ยุบตัวลงไปกลายเป็นแอ่งเล็ก ๆ บนใบหน้า ทำให้ใบหน้าดูไม่สดใส ดูโทรม และดูแก่ มีอายุมากขึ้น โดยปัญหาแก้มตอบมีสาเหตุที่เกิดได้จากหลาย ๆ ปัจจัย เช่น 

น้ำหนักที่ลดลง

เมื่อน้ำหนักลดลงหรือผอมลง ส่งผลให้แก้มดูตอบและซูบลง และทำให้ใบหน้าดูมีอายุมากยิ่งขึ้นเนื่องจากใต้ชั้นผิวเกิดการสูญเสียชั้นไขมันไป สามารถแก้ไขได้ด้วยการปรับเปลี่ยนการกิน เพิ่มน้ำหนักให้มากขึ้นเพื่อไม่ให้ใบหน้าดูซูบตอบจนเกินไป

ผลลัพธ์จากการจัดฟัน

หลังจากการจัดฟันอาจพบว่าแก้มดูตอบลง กรามดูเล็กคง คางดูสั้นลง บวกกับโหนกแก้มที่ดูสูงขึ้น จึงทำให้ใบหน้าดูมีอายุมากยิ่งขึ้นตามไปด้วย การฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบจะช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้อย่างดี

กรรมพันธุ์โหนกแก้มสูง

หลาย ๆ คนอาจมีโหนกแก้มสูงจากกรมพันธุ์ ทำให้แก้มดูตอบ ส่งผลให้ใบหน้าโทรม ไม่สดใส และดูมีอายุ แก้ได้โดยการฉีดฟิลเลอร์แก้ม เพื่อเติมเต็มใบหน้าให้ดูอวบอิ่มและดูอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้น

แก้มตอบจากอายุที่มากขึ้น

เมื่ออายุมากขึ้น ชั้นไขมันใต้ผิวหนังจะค่อย ๆ เริ่มฝ่อลงไปตามธรรมชาติ ทำให้ผิวและแก้มที่เคยดูอวบอิ่มเปล่งปลั่งดูซูบลงทั้งบริเวณด้านหน้าและด้านข้างของพวงแก้ม

ฉีดโบกับแพทย์ที่ไม่มีความชำนาญ

การฉีดโบท็อกกับคลินิกเถื่อน หมอกระเป๋า หรือแพทย์ที่ไม่มีความชำนาญมากพออาจทำให้กล้ามเนื้อกรามลีบลงจนทำให้เกิดแก้มตอบ เนื่องจากการคำนวณปริมาณของสารคลาดเคลื่อน ทำให้ใช้โบท็อกมากจนเกินไปจนทำให้แก้มดูตอบ

ใครบ้างที่ควรฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ?

ผู้ที่เหมาะกับการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ คือ ผู้ที่มีปัญหาแก้มตอบ ดูโทรม ไม่สดใส หรือผู้ที่ชั้นไขมันใต้ชั้นผิวบางลงเนื่องจากอายุที่เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ ยังเหมาะกับผู้ที่มีโหนกแก้มสูงจากกรรมพันธุ์จนทำให้ใบหน้าดูซูบตอบโดยธรรมชาติอีกด้วย

‍

ผู้ที่ผอมลงหรือน้ำหนักลดลงอย่างรวดเร็วก็มักจะประสบกับปัญหาใบหน้าดูซูบผอม ดูมีอายุ ในกรณีนี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการปรับปริมาณการกินอาหารให้มากขึ้น เมื่อน้ำหนักเพิ่มขึ้น จะทำให้ใบหน้าดูอวบอิ่มมีน้ำมีนวลมากยิ่งขึ้น การฉีดฟิลเลอร์แก้มยังเหมาะกับคนที่เพิ่งจัดฟัน ถอนฟัน หรือผู้ที่ต้องการเสริมโหงวเฮ้งตามความเชื่อต่าง ๆ อีกด้วย

ฉีดแก้มตอบอันตรายไหม?

การฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบนั้นมีความปลอดภัย หากผ่านกระบวนการที่ถูกต้องเหมาะสม และผ่านการให้บริการโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ทางด้านนี้ แต่ทั้งนี้ การฉีดฟิลเลอร์ทุกจุดทุกบริเวณก็มีข้อควรระวัง เนื่องจากบนใบหน้านั้นมีเส้นเลือด เส้นประสาท และอวัยวะต่าง ๆ มากมาย จึงควรต้องระมัดระวังและใส่ใจเลือกสถานที่ให้บริการในการฉีดฟิลเลอร์เป็นอย่างมาก

ปัจจัยที่ส่งผลด้านความปลอดภัยของการเข้ารับบริการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ มีดังนี้

ความชำนาญของแพทย์ผู้ให้บริการ

การฉีดฟิลเลอร์แก้มนั้น แนะนำให้ใช้บริการกับคลินิกที่ให้บริการโดยแพทย์ผู้มีความเชี่ยวชาญในการฉีดฟิลเลอร์ และมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับสรีรของใบหน้าเป็นอย่างดีและรู้ในตำแหน่งที่สามารถฉีดเข็มได้อย่างปลอดภัย

ใช้ฟิลเลอร์ที่มีคุณภาพ มีมาตรฐาน

การฉีดแก้มตอบอย่างปลอดถัยนั้นจำเป็นต้องใช้ฟิลเลอร์ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานจากองค์การอาหารและยา ซึ่งจะเป็นฟิลเลอร์ของแท้ที่ไม่ก่อให้เกิดอันตรายหรือเกิดการสะสมในร่างกาย

ใช้บริการคลินิกที่มีมาตรฐาน

การเข้ารับบริการฉีดแก้มตอบในคลินิกใดคลินิกหนึ่งเพียงเพราะราคาถูกอาจทำให้เสี่ยงที่จะเจอฟิลเลอร์ปลอมหรือแพทย์ที่ไม่มีความชำนาญจนส่งผลเสียต่อใบหน้าได้ แนะนำให้เลือกใช้บริการคลินิกหรือสถานพยาบาลที่ผ่านการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข และมีใบอนุญาต เพื่อความมั่นใจในความปลอดภัยในการเข้ารับบริการ

ข้อดีของการฉีดแก้มตอบ

ข้อดีของการฉีดแก้มตอบที่เป็นเหตุผลที่หลาย ๆ คนเลือกใช้เป็นวิธีการแก้ไขปัญหาหน้าซูบตอบ คือ ช่วยให้ผิวดูอวบอิ่มและเต่งตึง ใบหน้าดูเติมเต็มมากยิ่งขึ้น ผิวหน้าดูไม่หย่อนคล้อย และลดความเด่นชัดของโหนกแก้ม นอกจากนี้ การฉีดแก้มตอบยังช่วยลดเลือนรอยหมองคล้ำให้ดูจางลง โดยให้ผลลัพธ์ที่สามารถเห็นได้ในทันทีโดยไม่ต้องพักฟื้น ไม่ต้องผ่าตัด ใช้เวลาในการฉีดไม่นาน อีกทั้งยังเป็นฟิลเลอร์ที่สามารถสลายได้เองตามธรรมชาติ หรือหากเกิดอาการแพ้ก็สามารถฉีดเพื่อสลายฟิลเลอร์ได้โดยไม่ต้องกังวลใด ๆ

ข้อควรระวังของการฉีดแก้ม

สำหรับข้อควรระวังในการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบก็คือควรระมัดระวังการเลือกใช้บริการคลินิกที่ไม่ได้มาตรฐาน เนื่องจากอาจเสี่ยงที่จะได้รับการฉีดฟิลเลอร์ปลอมที่ไม่ได้มาตรฐานและไม่ได้ผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา ฟิลเลอร์เหล่านี้ไม่สามารถฉีดให้สลายหายไปได้ จึงตกค้างในร่างกาย พอฉีดไปแล้วอาจก่อให้เกิดอาการบวมแดง เขียวช้ำ หรืออาจทำให้ผิวติดเชื้อ นอกจากนี้ หากได้รับบริการจากแพทย์ที่ไม่ได้มีความชำนาญมากพอ ผลลัพธ์ที่ได้ก็อาจทำให้ผิวไม่เรียบเนียน คลำดูแล้วเป็นตุ่มเป็นก้อน เป็นต้น

เติมฟิลเลอร์แก้มตอบบ่อยแค่ไหน?

ฟิลเลอร์นั้น โดยมาตรฐานตัวยาแล้วจะมีอายุอยู่ได้ประมาณ 8 เดือนถึง 2 ปี และสามารถสลายหายไปได้เองตามธรรมชาติโดยไม่ก่อให้เกิดการตกค้างใด ๆ ในร่างกาย จึงมีความปลอดภัยและสามารถฉีดซ้ำได้เรื่อย ๆ ดังนั้น เมื่อเริ่มรู้สึกว่าตัวยาสลายไปหรือใกล้หมดอายุ ก็สามารถกลับมารับบริการเพื่อเติมฟิลเลอร์แก้มตอบได้

เปรียบเทียบการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ VS ฉีดไขมัน อันไหนดีกว่า?

ผู้ที่มีปัญหาแก้มตอบนั้นมักจะเลือกใช้วิธีการฉีดฟิลเลอร์หรือฉัดไขมันเพื่อขจัดปัญหาแก้มตอบให้หมดไป ซึ่งทั้งสองวิธีนี้เรียกได้ว่าเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก แต่ก็มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้

การฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ

• ใช้สารเติมเต็มประเภทไฮยารูลอนิคที่มีความปลอดภัยสูง
• หลังฉีดแล้วจะเห็นผลลัพธ์ใบหน้าเติมเต็มได้อย่างทันที
• ไม่ต้องผ่าตัด ไม่มีแผลเป็นมากวนใจ ไม่จำเป็นต้องพักฟื้น
• อาการบวมเข็มหรือบวมฟิลเลอร์หลังฉีดจะหายไปได้เองภายใน 2 วัน
• เห็นผลลัพธ์เต็มที่ได้ภายใน 2 สัปดาห์
• สารฟิลเลอร์ไม่อยู่ในร่างกายคงทนถาวร ระยะเวลาการสลายขึ้นอยู่กับยี่ห้อที่เลือกใช้
• ผลลัพธ์ที่ได้นั้นจะมีความเป็นธรรมชาติมาก ๆ หากฉีดด้วยวิธีที่ถูกต้อง

การฉีดไขมันหน้า

• เป็นการดูดไขมันจากบริเวณอื่นมาเติมเต็มในบริเวณแก้มที่ตอบ
• ลดความเสี่ยงจากอาการแพ้ได้เป็นอย่างดี เพราะใช้ไขมันตัวเอง
• ผ่านกระบวนการดูดไขมันเพื่อนำมาปั่นแยกเป็นของเหลว
• อาจทำให้เกิดแผลเป็นในบริเวณที่ดูดไขมันออกมา
• ผลลัพธ์อยู่ได้ไม่ยาวนาน ต้องฉีดซ้ำในกรณีที่ฉีดไปแล้วไม่ติด
• อาจเกิดปัญหาผิวไม่เรียบ มีอาการบวม
• ใช้ระยะเวลาเห็นผลประมาณ 3 เดือน

ฟิลเลอร์แก้มตอบ ใช้ยี่ห้อไหนดี? ต้องฉีดกี่ cc?

หากต้องการฉีดฟิลเลอร์ลดแก้มตอบเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ออกมาดูดีอย่างเป็นธรรมชาติและแก้มไม่เกิดอาการเป็นก้อน แพทย์จำเป็นต้องเลือกฟิลเลอร์ที่มีเนื้อนิ่ม ๆ เพราะจะมอบความเรียบเนียน สามารถปั้นให้เป็นทรงได้ง่าย และไม่จับตัวกันเป็นก้อน

ยี่ห้อฟิลเลอร์ที่แนะนำสำหรับการฉีดแก้มตอบ จะแนะนำเป็นฟิลเลอร์ยี่ห้อ Belotero Balance หรือ Restylane volyme ซึ่งจะสามารถอยู่ได้เป็นระยะยาวนานประมาณ 18 เดือน และยี่ห้อ Juvederm volift นั้นสามารถอยู่ได้เป็นระยะยาวนานประมาณ 12 เดือน สำหรับปริมาณการฉีดนั้นจะใช้ฟิลเลอร์ตั้งแต่ 2 CC ขึ้นไป แล้วแต่การประเมินในแต่ละเคสของแพทย์

การเตรียมตัวก่อนฉีดแก้มตอบ

ก่อนการฉีดแก้มตอบนั้นจะต้องมีการเตรียมตัวอย่างเหมาะสมเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยการเตรียมตัวก่อนฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบนั้นจะแนะนำให้หลีกเลี่ยงหรืองดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ หรือการสูบบุหรี่ เพราะพฤติกรรมเหล่านี้อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงที่อาจทำให้แผลจากการฉีดหรืออาการบวมช้ำหายช้าหรือติดเชื้อได้

นอกจากนี้ยังต้องงดการทานอาหารเสริมบางอย่าง เช่น ยาแอสไพริน วิตามินอี น้ำมันปลา ซึ่งอาจจะต้องแจ้งให้แพทย์ทราบล่วงหน้าเพื่อให้รับทราบก่อนการรักษาทุกครั้ง งดการทำเลเซอร์ก่อนการฉีดฟิลเลอร์เป็นเวลาอย่างน้อย 2 สัปดาห์ และงดการทำกิจกรรมที่อาจทำให้เลือดสูบฉีด

การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ

หลังจากที่เข้ารับบริการฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบแล้ว จะแนะนำให้หลีกเลี่ยงการกดทับหรือนอนทับในบริเวณที่เข้ารับการฉีดฟิลเลอร์ช่วงหลังฉีดเป็นเวลา 3-6 ชั่วโมง อีกทั้งยังแนะนำให้งดการออกกำลังกาย งดการแต่งหน้าหรือใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวใด ๆ เป็นเวลา 24 ชั่วโมงหลังฉีดฟิลเลอร์ และยังแนะนำให้ดื่มน้ำเยอะ ๆ เพื่อเติมเต็มความชุ่มชื้นให้แก่ร่างกาย หากมีอาการบวมช้ำ ก็สามารถประคบเย็นเพื่อลดอาการบวมช้ำตามคำแนะนำของแพทย์ได้

สรุป การเลือกฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบ และทำไมจึงต้องฉีดที่ Skinserity

การเลือกฉีดฟิลเลอร์แก้มตอบนั้นสามารถมอบผลลัพธ์ที่เป็นที่น่าพึงพอใจในเรื่องของการแก้ไขปัญหาแก้มตอบได้เป็นอย่างดี เนื่องจากจะไปช่วยเติมเต็มในส่วนที่ซูบตอบของใบหน้าที่ทำให้ใบหน้าดูโทรม ดูแก่ และดูมีอายุ ให้กลับกลายมาดูอวบอิ่ม เปล่งปลั่ง และดูอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้นได้

การเลือกใช้บริการฉีดฟิลเลอร์นั้น ควรเลือกใช้บริการคลินิกหรือสถานบริการที่ได้มาตรฐาน ได้รับการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุข เพื่อความปลอดภัยในการใช้บริการ คลินิก Skinserity เป็นอีกหนึ่งคลินิกที่เปิดให้บริการฉีดแก้มตอบที่ได้มาตรฐาน ได้รับการรับรอง และให้บริการอย่างปลอดภัย ด้วยทีมแพทย์ผู้ชำนาญการและมากประสบการณ์ที่มีความเชี่ยวชาญในการฉีดฟิลเลอร์ รวมไปถึงการใช้สารฟิลเลอร์ที่ปลอดภัย ได้มาตรฐาน และได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา ทำให้มั่นใจได้ว่าจะได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจ ควบคู่ไปกับความปลอดภัย ไร้ผลข้างเคียงใด ๆ แถมยังได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ เรียกได้ว่าตอบโจทย์การแก้ไขปัญหาแก้มตอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ