เลเซอร์หน้าใสดีไหม ? ทำแล้วช่วยเรื่องอะไรบ้าง ?

00
mins read
Articles on Skin
เลเซอร์หน้าใสดีไหม ? ทำแล้วช่วยเรื่องอะไรบ้าง ?

เลเซอร์หน้าใส ดีไหม เป็นอีกหนึ่งคำถามที่เราพบบ่อยที่สุดและโดนถามเข้ามามากที่สุด เพราะใบหน้าที่ดูใสเปล่งปลั่งเรียบเนียนถือว่าเป็นผิวในฝันของทุก ๆ คน และหนึ่งในวิธีที่ช่วยให้ผิวหน้าใสนั่นก็คือการทำเลเซอร์นั่นเอง

เลเซอร์ (Laser) ย่อมาจากคำเต็มว่า Light  Amplification by Stimulated Emission of Radiation ซึ่งหมายถึงการใช้พลังงานแสงที่มีความเข้มสูงยิงไปที่เป้าหมาย คือ บริเวณผิวที่มีปัญหาแรกเริ่มนั้นทางการแพทย์ได้นำเลเซอร์มาใช้รักษาเนื้องอกของผิวหนังและ ต่อมาก็มีการพัฒนามาใช้ในการดูแลความงาม โดยปกติ เลเซอร์ จะถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภทกว้างๆ คือ เลเซอร์ที่ทำแล้วเกิดแผล ( Abrasive Laser)และเลเซอร์ที่ทำแล้วไม่เกิดแผล ( Non-Abrasive Laser) ซึ่งแบบแรกทำแล้วเห็นผลเร็วและชัดเจนกว่า แต่ก็มีอาการข้างเคียงมากกว่าส่วนแบบหลังต้องทำหลายครั้งจึงเห็นผล แต่ก็จะลดอาการข้างเคียง เช่น การไหม้แสบร้อน ฯลฯ ลงได้มากกว่า

ทำความรู้จัก เลเซอร์หน้าใส คืออะไร ?

เลเซอร์หน้าใส คือ การใช้เลเซอร์เพื่อปรับปรุงสภาพผิวหน้า ซึ่งถือว่าเป็นวิธีการที่เป็นที่นิยมอย่างแพร่หลาย วิธีการทำงานของการเลเซอร์ คือ การใช้แสงเลเซอร์เพื่อกระตุ้นกระบวนการผลัดเซลล์ผิว เป็นการลดปัญหาผิวหมองคล้ำและเร่งกระบวนการสร้างผิวใหม่ เพื่อให้ผิวหน้าดูสดใสขึ้น การใช้เลเซอร์หน้าใสได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายไม่ว่าจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายที่ต้องการผิวหน้าและผิวกายที่มีความสดใสและอ่อนเยาว์

เลเซอร์หน้าใสเป็นกระบวนการการรักษาผิวหน้าที่นิยมในปัจจุบัน เป้าหมายหลักของการใช้เลเซอร์นี้คือเพื่อเร่งกระบวนการผลัดเซลล์ผิวเก่าและกระตุ้นการสร้างเซลล์ผิวใหม่ เพื่อให้ผิวหน้าดูสดใสและกระจ่างใสขึ้น การใช้เลเซอร์หน้าใสไม่ทำลายผิวบริเวณด้านข้างๆ และมักจะเน้นในการจับกับเม็ดสีเมลานินของผิว หลังการรักษาด้วยเลเซอร์ ควรเลี่ยงการสัมผัสแดดเนื่องจากแดดอาจทำให้ผิวหน้าหมองคล้ำขึ้น 

ในปัจจุบันมีเลเซอร์หลายชนิดที่ใช้ในการรักษาปัญหาผิวหน้า ซึ่งได้รับความนิยม เช่น Q-Switch, ND-Yag, และ Fractional Laser และ Dual Yellow Laser โดย Dual Yellow Laser เป็นเทคโนโลยีเลเซอร์ที่อ่อนโยนต่อผิวหน้าและมีประสิทธิภาพในการลดรอยดำ รอยแดงจากสิว และให้ผิวหน้ากระจ่างใส อย่างต่อเนื่องโดยไม่ทำให้ผิวตกสะเก็ด และไม่ทิ้งรอยบนผิวหน้าหลังการทำ

ทำเลเซอร์หน้าใสดียังไง ?

เลเซอร์หน้าใสไม่เพียงแค่ช่วยทำให้ผิวสว่างกระจ่างใส แต่ยังมีประโยชน์หลายด้านอื่นด้วย เช่น ช่วยลดรอยแดงและรอยดำจากสิว ลดรอยดำจากรอยแผลที่หายดีแล้ว โดยยังทิ้งร่องรอยหมองคล้ำบางจุดของผิวหนัง ลดริ้วรอยเล็ก ๆ บนใบหน้า กระชับรูขุมขนให้เล็กลง ปรับผิวที่ไม่สม่ำเสมอ เช่น รอยสิวหรือผิวที่มีความหมองคล้ำบางส่วนให้กระจ่างใสและสม่ำเสมอ

อีกประโยชน์ที่สำคัญของการทำเลเซอร์หน้าใส คือ การย่นระยะเวลาการผลัดเซลล์ผิว ที่ปกติของร่างกายอยู่ที่ 4-6 สัปดาห์ ซึ่งทำให้ผิวหน้ากระจ่างใสเร็วขึ้น สามารถเห็นผลอย่างชัดเจนและรวดเร็วโดยไม่ต้องรอนานตามวงจรธรรมชาติของร่างกายที่ผลัดเซลล์ผิวช้าและสามารถมีผิวที่ใสขึ้นได้อย่างเห็นผลชัดเจน

Laser หน้าใสช่วยแก้เรื่องอะไรได้บ้าง ?

สาเหตุหลักที่ทำให้หลายคนต้องการใช้บริการเลเซอร์หน้าใสมาจากปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกที่แพร่กระจายในอากาศและมาสัมผัสผิวหน้า แสงแดดทำร้ายผิวหนัง สภาพอากาศร้อนและแห้งที่ขาดความชุ่มชื้น กิจวัตรประจำวันที่ละเลยการดูแลผิว เช่น การไม่ล้างหน้าหรือให้ผิวสะอาดไม่เพียงพอ หรือไม่ทาโลชั่นเพื่อเสริมความชุ่มชื้นให้กับผิว การหลั่งน้ำมันตามธรรมชาติของผิวและสิ่งสกปรกบนผิวที่ไม่ได้รับการล้างออกอย่างสะอาดหมดจด ปัญหาเหล่านี้อาจทำให้เกิดสิวและรอยดำ หรืออาจทำให้ผิวขาดความชุ่มชื้นและเป็นเหตุให้เกิดความหมองคล้ำบนผิวได้

ใครเหมาะกับการทำ Laser หน้าใสบ้าง ?

การเลเซอร์หน้าใสไม่ได้จำกัดไว้เฉพาะกับกลุ่มผู้ที่ต้องการให้สุขภาพผิวดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังถือเป็นทางเลือกการรักษาที่เหมาะสำหรับทุกคนที่ต้องการผิวที่ดูสวยและมีชีวิตชีวามากขึ้น ไม่ว่าคุณจะมีปัญหาเรื่องความกระจ่างใสของผิวทั่วไปหรือรู้สึกว่าผิวหน้าหมองคล้ำลง ไม่มีความสดใสเหมือนเดิม คุณก็สามารถใช้บริการเลเซอร์หน้าใสเพื่อเรียกคืนความสดใสและความมีชีวิตชีวาของผิวได้

เลเซอร์หน้าใสมีกี่ประเภท ทำแบบไหนดี ?

การทำเลเซอร์หน้าใสมีหลากหลายนวัตกรรมเลเซอร์ให้เลือกใช้บริการที่ให้ผลลัพธ์แตกต่างกัน ดังนี้

Q-switch Laser

เป็นการทำเลเซอร์ที่ช่วยเปลี่ยนแปลงผิวหน้าที่เสื่อมโทรมหรือมองคล้ำโดยใช้พลังงานเลเซอร์เพื่อแตกเม็ดสีและกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ผลลัพธ์ที่ได้คือผิวจะใส แต่ผลข้างเคียง คือ ผิวอาจลอกหลุดมากขึ้นหลังทำ

Fractional Co2 Laser

เลเซอร์ชนิดจนี้เป็นเลเซอร์ที่มีความแม่นยำสูงและเหมาะสำหรับรักษาหลุมสิวและกระชับรูขุมขน การทำเลเซอร์นี้อาจทำให้ผิวหนังผลัดเซลล์ผิวเก่าออกมา ผลข้างเคียงคือผิวลอกหรือมีผิวไหม้หลังการยิงเลเซอร์

E-Matrix Laser

เป็นการใช้คลื่นวิทยุความถี่ (RF) บนผิวหน้าเพื่อกระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวใหม่ ผลข้างเคียงคือผิวหนังอาจลอกตกสะเก็ดหลังจากการทำ

IPL (Intense Pulse Light)

เป็นการใชเคลื่นแสงพลังงานแสงที่กว้าง 500-1,200 นาโนเมตร มีประโยชน์ในการปรับเซลล์ผิวให้ใสขึ้น แต่ไม่สามารถใช้ลงลึกถึงผิวหนังชั้นในได้ ผลลัพธ์ที่ได้จึงอยู่แค่ผิวหนังชั้นนอกเท่านั้น

Dual Yellow Laser

เป็นเลเซอร์ที่อ่อนโยนต่อผิวและสามารถใช้เครื่องสำอางได้ทันทีหลังการทำเลเซอร์ชนิดนี้ การใช้เลเซอร์ Dual Yellow Laser มีประสิทธิภาพในการปรับผิวที่มีรอยแดงหรือรอยดำจากสิวและเส้นเลือดได้เป็นอย่างดี

การเลือกใช้เลเซอร์หน้าใสควรพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ เช่น ปัญหาผิวที่ต้องการแก้ไขและประสิทธิภาพของเลเซอร์ต่อผิว ทั้งนี้ อาจต้องรับบริการหลายครั้งเพื่อเห็นผลลีพธ์อย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญเพื่อคำแนะนำที่เหมาะสมกับสภาพปัญหาผิวมากที่สุด

ทำเลเซอร์หน้าใสกี่ครั้งถึงเห็นผล ?

โดยปกติ การทำเลเซอร์หน้าใสมักให้ผลลัพธ์ที่สังเกตเห็นได้เร็ว อย่างไรก็ตาม เพื่อการรักษาผิวให้คงความกระจ่างใสและเรียบเนียนอย่างยาวนาน แนะนำให้เข้ารับบริการเลเซอร์ โดยทั่วไปแล้วจะเป็นการรับบริการยิงเลเซอร์หน้าใสเป็นคอร์สละ 3-5 ครั้ง โดยในแต่ละครั้งนั้นจะห่างกันประมาณ 4-6 สัปดาห์

ในกรณีที่กังวลเรื่องผิวที่อาจจะเริ่มบางลงหลังจากการรับบริการเลเซอร์ ก็ไม่ต้องเป็นกังวลไป เพราะผิวหน้ามนุษย์มีระบบการผลัดเซลล์ใหม่ทุก ๆ 4 สัปดาห์ การใช้เลเซอร์จะช่วยกระตุ้นเซลล์ผิวใหม่ให้แข็งแรงและมีสุขภาพดีมากขึ้น อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนให้ผิวยืดหยุ่น และมีความกระจ่างใสมากกว่าเดิม

ดังนั้น จึงสามารถเริ่มด้วยการรับบริการเลเซอร์หน้าใสในระยะเวลาที่เหมาะสม และรักษาผิวไปตามความต้องการ อย่างไรก็ตาม ควรปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำแนะนำและแผนการรักษาที่เหมาะกับผิวของแต่ละคนโดยเฉพาะ เพราะสภาพผิวและปัญหาผิวของแต่ละคนนั้นมีความแตกต่างกัน

ใครที่ไม่เหมาะกับการทำ Laser หน้าใส ?

การทำเลเซอร์หน้าใสถือเป็นทางออกสำหรับผู้ที่ต้องการผิวใส ลดปัญหาหน้าโทรมอย่างเร่งด่วน แต่การทำเลเซอร์หน้าใสนั้นก็ไม่ได้เหมาะกับทุกคน โดยผู้ที่ไม่เหมาะกับการทำเลเซอร์ คือ

  • สตรีที่ตั้งครรภ์หรือกำลังให้นมบุตร เพราะการทำเลเซอร์อาจมีผลกระทบต่อสุขภาพของทารกและตัวคุณแม่เองได้ จึงแนะนำว่าควรรอให้เลยระยะเวลาตั้งครรภ์นี้เสียก่อนรวมไปถึงยังควรรอให้เลยระยะเวลาให้นมบุตรด้วย
  • ผู้ที่มีโรคผิวหนังหรือข้อหากเกี่ยวกับผิวหนัง หากมีโรคผิวหนังอักเสบ ติดเชื้อ สะเก็ดเงิน ด่างขาว มีแผลสด หรือเพิ่งรับการผ่าตัดและแผลยังไม่หายสมบูรณ์ ควรรอให้สภาพผิวหนังปกติก่อนที่จะพิจารณาการรับบริการเลเซอร์ 

สุดท้าย หากมีโรคประจำตัวอื่น ๆ ที่ทำให้เป็นกังวลว่าควรรับบริการเลเซอร์หน้าใสหรือไม่ คุณควรปรึกษาแพทย์ประจำคลินิกหรือสถานพยาบาลที่ไปใช้บริการเป็นประจำ เพื่อให้ได้คำแนะนำและข้อมูลเพิ่มเติมที่เหมาะสมกับสุขภาพและผิวหน้า

ข้อดีและข้อเสียของการทำเลเซอร์หน้าใส ?

การทำเลเซอร์หน้าใสนั้นอาจไม่ได้ดีแต่ข้อดีเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีข้อเสียที่ควรพึงระวังไว้ด้วย ดั

นี้

ข้อดีของการใช้เลเซอร์หน้าใส

  • สามารถแก้ไขปัญหาผิวหน้าคล้ำได้อย่างตรงจุด
  • ช่วยปรับสภาพสีผิวให้เรียบเสมอทั่วใบหน้า
  • มอบผลลัพธ์ชัดเจนและรวดเร็วกว่าการใช้ครีมหรือทรีตเม้นท์ทั่วไป
  • สามารถแก้ไขปัญหารอยคล้ำหรือรอยดำ รอยแดงบนจุดต่าง ๆ ได้
  • ช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใหม่ ช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับโครงสร้างผิว
  • ไม่ทำให้ผิวลอกหรือเป็นสะเก็ด ไม่ต้องพักฟื้นหลังการใช้เลเซอร์

ข้อเสียของการใช้เลเซอร์หน้าใส

  • มักมีค่าใช้จ่ายสูงในการทำเลเซอร์แต่ละครั้ง
  • แนะนำว่าควรใช้เลเซอร์อย่างสม่ำเสมอเพื่อเพิ่มผลลัพธ์ที่ดี
  • ต้องดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญที่สามารถวิเคราะห์สภาพปัญหาให้เหมาะสมกับปัญหาผิว
  • บางครั้งอาจมีความร้อนหรือความรู้สึกแสบผิวระหว่างการใช้เลเซอร์ ทำให้รู้สึกเจ็บขณะทำ ความร้อนที่ถูกส่งผ่านลงไปยังผิว ทำให้รู้สึกเจ็บ ถึงแม้เลเซอร์บางชนิดจะมีการเป่าลมเย็น แต่ก็ยังคงรู้สึกเจ็บอยู่ดี เลเซอร์บางชนิดจำเป็นต้องใช้ยาชาร่วมด้วยแต่มักเป็นความรู้สึกที่ทนได้ไม่ก่อให้เกิดปัญหาหรือน่ากังวลใด ๆ
  • ผิวหน้าไวต่อแดด แพ้ง่าย เป็นแผลง่าย เนื่องจากเลเซอร์ทำให้เกิดความร้อนที่ผิวชั้นบน ผิวหนังจึงอักเสบง่ายและเกิดรอยแผล
  • ผิวหน้าระคายเคืองต่อเครื่องสำอางง่าย ผิวอ่อนแอ ขัดผิวหรือนวดหน้าไม่ได้
  • ผิวหน้าแห้ง เป็นขุยง่าย ความร้อนจากการทำเลเซอร์ จะทำให้มีอาการผิวแห้ง ลอกเป็นขุยหลังทำ
  • ผิวหน้าเป็นฝ้า กระ จุดด่างดำได้ง่ายขึ้น หากดูแลไม่ถูกวิธี ไม่หลบแดด ทายาไม่ครบ จะทำให้เกิดจุดด่างดำได้ง่ายขึ้น
  • หยุดทำ...หน้าคล้ำเหมือนเดิม เลเซอร์ไม่ได้ให้ผลถาวรตลอดไป เมื่อหยุดทำผิวก็จะกลับมาเกิดปัญหาเช่นเดิม
  • มีรอยแผลเป็น รอยตาข่ายจากการลอกของผิวหนังหลังจากทำเลเซอร์ ผิวหลังทำเลเซอร์ ต้องการการดูแลเป็นพิเศษ เลเซอร์บางชนิด ต้องดูแลผิวเหมือนการดูแลแผลหลังผ่าตัด

วิธีเตรียมตัวก่อนทำเลเซอร์หน้าใส

การทำเลเซอร์นั้นจะส่งผลให้ผิวมีการผลัดเปลี่ยนเซลล์ผิวใหม่ ทำให้ผิวบางลงกว่าเดิม อีกทั้งยังอ่อนแอ และระคายเคืองได้ง่าย การทำเลเซอร์ควรศึกษาหาข้อมูลอย่างถี่ถ้วน เพื่อทราบถึงผลกระทบและข้อเสียที่อาจตามมา อีกทั้งยังควรเลือกสถานบริการที่ได้มาตรฐาน ปลอดภัย เพื่อความสวยงามที่สมบูรณ์แบบ

ก่อนที่จะไปเข้ารับบริการยิงเลเซอร์หน้าใส มีขั้นตอนง่าย ๆ ที่แนะนำให้ทำตาม ดังนี้

  • งดออกไปแดดเป็นเวลาประมาณ 4-6 เดือนก่อนการทำเลเซอร์ เพื่อลดความผิดพลาดของผลลัพธ์ เนื่องจากแสงแดดอาจทำให้ผิวมีความระคายเคืองและผลลัพธ์การทำเลเซอร์ลดน้อยลง
  • งดใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่อาจทำให้ผิวระคายเคือง เช่น ผลิตภัณฑ์ที่มีกรดวิตามินเอ (Retin-A) หรือกรด AHA
  • หลีกเลี่ยงการแคะ แกะ เกาผิวหรือทำให้ผิวเป็นแผลก่อนการรับบริการ เมื่อมีแผลสดควรรอให้แผลหายดีก่อนเพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและความรู้สึกเจ็บระหว่างการทำเลเซอร์
  • ทาครีมเหรือโลชั่นเพื่อเติทความชุ่มชื้นในบริเวณที่ทำเลเซอร์ เพราะผิวที่แห้งมีโอกาสรู้สึกเจ็บหรือคันระคายเคืองขณะทำเลเซอร์ได้มากขึ้น

ขั้นตอนการทำเลเซอร์หน้าใส

สำหรับขั้นตอนในการทำเลเซอร์หน้าใสนั้นอาจมีความแตกต่างกันออกไปขึ้นอยู่กับคลินิกที่ให้บริการในแต่ละที่ แต่โดยหลัก ๆ มีขั้นตอน คือเริ่มจากทำความสะอาดผิวบริเวณที่จะยิงเลเซอร์ให้สะอาด โดยจะทำความสะอาดคราบฝุ่น เครื่องสำอาง และความมันต่าง ๆ บนใบหน้าให้สะอาดหมดจด จากนั้นจะทาเจลหรือยาชาเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดระหว่างการยิงเลเซอร์ หลังจากที่ยาชาออกฤทธิ์เรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่จะใช้พลังงานเลเซอร์ยิงลงไปที่บริเวณผิวที่เป็นปัญหา

การทำเลเซอร์ผิวหนังเพื่อปรับสภาพผิวแต่ละประเภทต่างมีรายละเอียดขั้นตอนเฉพาะเจาะจง ซึ่งประกอบด้วยขั้นตอนระหว่างการทำเลเซอร์ และหลังการทำเลเซอร์ผิวหนัง ผู้ที่สนใจทำเลเซอร์ผิวหนังควรศึกษารายละเอียดของการทำเลเซอร์แต่ละประเภท ดังนี้

ระหว่างการทำเลเซอร์ผิวหนัง

  • การทำเลเซอร์ชนิดที่ทำให้ผิวเกิดอาการลอก (Ablative Laser Resurfacing) ก่อนทำเลเซอร์ แพทย์จะทำความสะอาดผิวใบหน้า ปิดตาผู้ป่วยไว้ และให้ยาชาเฉพาะที่ หรือบางครั้งอาจให้ยาทำให้หลับแทนหากต้องทำเลเซอร์ทั่วใบหน้า หลังจากนั้นแพทย์จะยิงเลเซอร์ไปตรงจุดที่ต้องการรักษา แสงเลเซอร์จะทำลายผิวชั้นนอกหรือหนังกำพร้า และส่งผ่านความร้อนไปที่หนังแท้ ทำให้เส้นใยคอลลาเจนหดตัว เมื่อแผลจากเลเซอร์หายแล้ว จะเกิดผิวใหม่ที่เรียบและบางขึ้นมา โดยทั่วไปแล้ว การทำเลเซอร์ชนิดนี้ใช้เวลาประมาณ 30 นาที-2 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับเทคนิคที่ใช้และขนาดของผิวที่ต้องรักษา
  • การทำเลเซอร์ชนิดที่ไม่ทำให้ผิวเกิดอาการลอก (Non-ablative Laser Resurfacing) ก่อนเริ่มทำเลเซอร์แพทย์จะทำความสะอาดใบหน้า ปิดตาผู้ป่วย และอาจให้ยาชาเฉพาะที่เช่นเดียวกับการทำเลเซอร์แบบแรก ทั้งนี้ แพทย์อาจใช้สารที่ทำให้เย็น ทาบริเวณที่จะยิงเลเซอร์เพื่อปกป้องผิวชั้นนอก เมื่อแพทย์ยิงเลเซอร์ แสงเลเซอร์จะกระตุ้นให้ผลิตคอลลาเจนขึ้นมาใหม่ รวมทั้งกระชับผิวและปรับสภาพโทนสีผิวให้ดีขึ้น โดยทั่วไปแล้ว จะใช้เวลาทำเลเซอร์ประมาณ 15 นาที-1 ชั่วโมงครึ่ง หากต้องการเห็นผลอย่างชัดเจน ควรเข้ารับการรักษาอย่างสม่ำเสมอ

หลังการทำเลเซอร์ผิวหนัง

  • การทำเลเซอร์ชนิดที่ทำให้ผิวเกิดอาการลอก ผิวหนังที่ถูกยิงเลเซอร์จะบวมและเกิดอาการระคายเคืองหลังรับการรักษา รวมทั้งอาจมีสะเก็ดน้ำเหลืองออกมาด้วย ซึ่งไม่ควรแกะสะเก็ดนั้น ทั้งนี้ แพทย์อาจทาขี้ผึ้งและปิดแผลบริเวณที่ยิงเลเซอร์อย่างดีไม่ให้สัมผัสน้ำหรืออากาศได้ เมื่อเกิดอาการปวดแผล ควรรับประทานยาแก้ปวดและประคบน้ำแข็งเพื่อบรรเทาอาการให้ทุเลาลง นอกจากนี้ ควรทำความสะอาดแผลด้วยน้ำเปล่า น้ำเกลือ หรือกรดแอซีติก (Acetic Acid) และทาขี้ผึ้งบริเวณดังกล่าวระหว่างพักฟื้นร่างกาย รวมทั้งนอนพักอยู่บ้านและเลี่ยงทำกิจกรรมหนัก ๆ เมื่อเกิดเซลล์ผิวใหม่ขึ้นมา ผู้ป่วยอาจแต่งหน้าเพื่อปกปิดรอยแดงได้ตามปกติ
  • การทำเลเซอร์ชนิดที่ไม่ทำให้ผิวเกิดอาการลอก หลังเข้ารับการทำเลเซอร์แล้ว อาจทำให้เกิดรอยแดงหรือบวมขึ้นสักระยะหนึ่ง ผู้ป่วยอาจใช้น้ำแข็งประคบ รวมทั้งสามารถกลับไปแต่งหน้าและทำกิจกรรมอื่น ๆ ได้ตามปกติทันที

วิธีดูแลตัวเองหลังทำเลเซอร์หน้าใส ให้ได้ผลลัพธ์ดีที่สุด

หลังจากการทำเลเซอร์หน้าใส แพทย์จะมีการแนะนำการดูแลตนเองมีขั้นตอนง่าย ๆ ดังนี้

  • ทาครีมกันแดด แนะนำว่าควรทาครีมกันแดดทุกวัน เพื่อปกป้องผิวหน้าจากแสงแดดที่อาจทำให้ผิวคล้ำเสีย งดออกไปเผชิญแสงแดดประมาณ 1-2 สัปดาห์ หากจำเป็นต้องออกไปในแสงแดด ให้ใช้ร่มกันแดด สวมหมวก และใส่เสื้อแขนยาวและกางเกงขายาวเพื่อปกป้องผิวจากแสงแดด
  • หากมีแผลหลังการทำเลเซอร์ที่สถานพยาบาลแนะนำให้รักษาโดยไม่ให้แผลโดนน้ำเป็นเวลา 24 ชั่วโมง เพื่อป้องกันการเกิดแผลริ้วที่ผิวหน้าขณะที่ผิวอยู่ในระหว่างการฟื้นตัวหลังการทำเลเซอร์

นอกจากการรับบริการยิงเลเซอร์อย่างสม่ำเสมอแล้ว  ยังมีเคล็ดลับเพิ่มเติมในการดูแลผิวหน้าเพื่อให้มั่นใจในความกระจ่างใสอย่างปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วแพทย์จะแนะนำให้ปฏิบัติตัวหลังยิงเลเซอร์หน้าใส ดังนี้

  • หลีกเลี่ยงแสงแดด: หลีกเลี่ยงการออกไปโดนแสงแดดจัด ๆ เพราะแสงแดดอาจทำให้ผิวหมองคล้ำขึ้น หากต้องออกแดดให้ใช้ร่มหรือสวมหมวกเพื่อป้องกันผิวหน้าจากแสงแดดและรังสียูวี
  • ลดใช้อุปกรณ์ไอที: แสงจากอุปกรณ์ไอที เช่น คอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือก็สามารถทำให้ผิวดูหมองคล้ำขึ้นได้ ลองลดเวลาการใช้งานอุปกรณ์เหล่านี้รับรองว่าผิวจะดูใสขึ้นกว่าเดิมอย่างแน่นอน
  • ใช้ครีมกันแดด: ใช้ครีมกันแดดทุกวัน โดยใช้ครีมกันแดดที่มี SPF 30+ หรือ 50+ เพื่อปกป้องผิวจากแสงแดด แม้แต่ในระหว่างการทำงานออฟฟิศในร่มหรือภายในอาคาร เพราะรังสียูวีมีอยู่ทุกที่ การทาครีมกันแดดจึงช่วยปกป้องผิวจากแสงแดดได้ในทุกช่วงเวลาของวัน
  • อย่าแกะสิว: อย่าแกะหรือบีบสิว เพราะการทำแบบนี้อาจทำให้เกิดรอยแผลและริ้วรอยบนผิวหน้า
  • ดื่มน้ำเพียงพอ: รักษาความชุ่มชื้นของผิวโดยดื่มน้ำอย่างเพียงพอที่ประมาณ 6-8 แก้วต่อวัน เพื่อช่วยให้ผิวไม่แห้งและลดโอกาสการมีรอยดำหรือความหมองคล้ำของผิว
  • รับประทานผักผลไม้: รับประทานอาหารที่มีประโยชน์เพื่อผิวหน้า เช่น ผลไม้ที่มีวิตามินซี เช่น ส้ม แอปเปิล สตรอว์เบอร์รี องุ่น กีวี หรือมะเขือเทศ เป็นต้น

วิธีเลือกคลินิกทำเลเซอร์หน้าใส และทำไมต้องเลือกทำกับ Skinserity ?

สำหรับการทำเลเซอร์ที่เป็นที่นิยมและเหมาะกับการทำเลเซอร์หน้าใสมากที่สุด ต้องยกให้การทำเลเซอร์ Dual Yellow Laser ที่จะเน้นการดูแลผิวหน้าให้สว่างใส แม้จะต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีแสงแดดมาก อย่างเมืองไทยบ้านเราที่อากาศร้อนระอุและมีฝุ่นและแบคทีเรียรอบตัว อาจส่งผลให้ผิวมีปัญหา เช่น สิว เป็นต้น

สำหรับการเลือกคลินิกนั้นแนะนำให้เลือกคลินิกที่ให้บริการอย่างปลอดภัยและมีมาตรฐาน โดยสังเกตจากใบอนุญาตให้บริการคลินิกความงาม มาตรฐานการบริการที่สะอาด ปลอดภัย เครื่องไม้เครื่องมือที่ทันสมัย รวมไปถึงต้องสามารถหารีวิวอ่านจากผู้ใช้บริการจริงได้

ที่คลินิก Skinserity มีเทคโนโลยี Dual Yellow Laser จากอเมริกาที่ช่วยแก้ปัญหาผิว เหมาะสำหรับทุกปัญหาผิว ไม่ว่าจะเป็นรอยด่าง รอยแดง รอยดำ หรือความหมองคล้ำ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อผิวบริเวณใกล้เคียง

Dual Yellow Laser เป็นเทคโนโลยีที่อ่อนโยนต่อผิว ไม่ทำให้ผิวมีผลข้างเคียงหลังการรักษา ดังนั้น จึงไม่ต้องกังวลเรื่องความไม่สบายผิวหลังการใช้เลเซอร์ ทั้งยังสามารถเห็นผลลัพธ์ได้เร็วทันใจ ไม่จำเป็นต้องรอนาน และยังมั่นใจได้ว่าจะสามารถเห็นหารเปลี่ยนแปลงของผิวในทางที่ดี

บริการเลเซอร์หน้าใสที่คลินิก Skinserity ได้รับการยอมรับจากผู้เข้ารับบริการมากมาย โดย Dual Yellow Laser เป็นหนึ่งในเทคโนโลยีในการกู้คืนผิวที่มืดขึ้นให้กระจ่างใสอีกครั้ง

Plan your treatment with us today