ฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น (PRP)

ทำไมต้อง ฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น (PRP)?

การใช้โกรทแฟคเตอร์ในการซ่อมแซมเซลล์และเร่งกระบวนการรักษาให้เร็วขึ้น

เราใช้ PRP ในการรักษาต่างๆ ซึ่งรวมถึง:

• รักษาแผลเป็นจากสิว
• ปรับปรุงการเจริญเติบโตของเส้นผม
• การปรับปรุงพื้นผิวและโทนสีผิว
• ลดริ้วรอยและริ้วรอย
• ปรับปรุง ED และปรับปรุงความไวของอวัยวะเพศชาย
• การปรับปรุงอาการปวดข้อเรื้อรัง
• ปรับปรุง ED และปรับปรุงความไวของอวัยวะเพศชาย

นอกเหนือจากขั้นตอนพื้นฐานของ PRP แล้ว เรายังมีสูตร Double Advanced PRP โดยเราผสมผสาน Growth Factor ที่มี PRP เข้ากับการฉีดเสริมประสิทธิภาพ Growth Factor ซึ่งช่วยให้ PRP ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

บริเวณที่ทำการรักษา

> บำรุงผม

> รอบดวงตา

> แก้มและกลางใบหน้า

> คอและกราม

> หลังมือและแขน

> ทรวงอกและเนินอก

> ข้อต่อ

• ประกอบด้วยไหล่ ข้อมือ มือ ข้อศอก หลัง สะโพก เข่า ข้อเท้า เท้า

ฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น (PRP) ที่ Skinserity

เรามีเครื่องสกัด PRP ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดเครื่องหนึ่งที่สามารถให้เซรั่มที่อุดมด้วย Growth Factor แก่คุณได้แทบจะในทันที ซึ่งสามารถใช้ในการรักษาต่างๆ

บริการที่เราเสนอประกอบด้วย:

• Pure PRP procedure : 9,500 บาท/session

Promotion buy 4 free 1 at 42,500 บาท/5 sessions

• Double Advanced PRP procedure 25,000 บาท/session

Promotion buy 3 sessions at 65,000 บาท/3 session

ฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น (PRP) คืออะไร? ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง?

เรื่องของสุขภาพและความงามนั้นเป็นของคู่กัน การที่จะมีรูปลักษณ์ที่ดูสวยเปล่งปลั่งได้ ร่างกายต้องสุขภาพดีก่อน นวัตกรรม PRP จึงถูกคิดค้นมาเพื่อตอบโจทย์ทั้งเรื่องสุขภาพโดยรวม ซึ่งจะส่งผลไปสู่เรื่องของความงามจากภายในสู่ภายนอก

ฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น (PRP) คืออะไร?

ก่อนที่เราจะเจาะลึกข้อมูลของ PRP ดันให้มากขึ้น เรามาทำความรู้จักกับ PRP กันก่อนเลยดีกว่า

PRP หรือในชื่อเต็มว่า Platelet Rich Plasma ซึ่งเป็นวิธีการรักษาโดยอาศัยกระบวนการเยียวยารักษาตัวเองตามธรรมชาติของมนุษย์ วิธีการคือการนำเลือดมาปั่นแยกชั้นแล้วฉีดกลับเข้าไปผ่านกรรมวิธีการเฉพาะ การปั่นนั้นเหตุผลก็เพื่อแยกชั้นพลาสมาที่เป็นน้ำเหลืองใส ๆ ออกมา โดยในพลาสมาประกอบไปด้วยเกล็ดเลือดที่ประกอบไปด้วยสารต่าง ๆ ที่ช่วยในการแข็งตัวของเลือด อีกทั้งยังมีสารที่สามารถช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโต หรือ Growth Factor โดยสารกระตุ้นการเจริญเติบโตนี้เป็นโปรตีนกลุ่มหนึ่งที่พบได้ในร่างกายของสิ่งมีชีวิต ทำหน้าที่ไปกระตุ้นการแบ่งตัวเพิ่มของเซลล์และสามารถซ่อมแซมตัวเองได้ ทำให้ PRP เป็นที่รู้จักกันในเรื่องของการใช้เพื่อกระตุ้นการซ่อมแซมตัวเองของร่างกาย

มาขยายความกันถึงความสำคัญของเกล็ดเลือดกันสักนิด เพราะเราเชื่อว่าหลายคนคงสงสัยว่าเราจะเอาเกล็ดเลือดมาปั่นทำไม เหตุผลนั่นก็เพราะเกล็ดเลือดมีสิ่งสำคัญที่เป็นปัจจัยในการซ่อมแซมเนื้อเยื่อ เพราะในเกล็ดเลือกจะมีสารที่สามารถช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโต หรือ Growth Factor ที่จำเป็นซึ่งมีบทบาทในการกระตุ้น Stem cell ให้เกิดการสร้างและซ่อมแซมเนื้อเยื่อใหม่ ๆ นอกจากนี้ เกล็ดเลือดยังไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ซึ่งทำให้ผิวดูเปล่งปลั่งอ่อนเยาว์

ในเกล็ดเลือดจะมีพลาสมาซึ่งเป็นแหล่งอุดมสารอาหารต่าง ๆ มากมาย เช่น วิตามิน ฮอร์โมน เกลือแร่ และสาร Growth Factor ที่จำเป็นในการอยู่รอดของเซลล์ อีกทั้งยังมีส่วนในการสร้างเนื้อเยื่อใหม่ ๆ อยู่เสมอ

ขั้นตอนการฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น (PRP) มีอะไรบ้าง?

ขั้นตอนการฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น (PRP) หน้าใสนั้นสามารถอธิบายให้เห็นภาพได้คร่าว ๆ ได้ดังนี้

• เจาะเลือดที่บริเวณข้อพับ แล้วเอาเลือดออกมาประมาณ 20 ซีซี
• นำเลือดมาใส่หลอดใส่เลือดที่มีสารต้านการแข็งตัวของเลือด และมีค่า pH = 7 ซึ่งมีค่าเป็นกลาง ไม่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพของเกล็ดเลือด
• นำเลือดมาปั่นในเครื่องเหวี่ยงสารเพื่อสกัดเอาเกล็ดเลือดที่มีความเข้มข้น และมีปริมาณ Growth Factor สูง
• แยกเกล็ดเลือดที่มีความเข้มข้นออกมา
• ฉีดเกล็ดเลือด PRP ที่มีความเข้มจ้นที่ถูกแยกออกมากลับเข้าสู่ส่วนต่าง ๆ เพื่อทำการฟื้นฟู เช่น บริเวณผิวหน้า หรือศีรษะ เป็นต้น

ข้อดีของการฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น (PRP)

ประโยชน์และข้อดีของการฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น (PRP) นั้นมีมากมาย ดังนี้

• เป็นกระบวนการรักษาและฟื้นฟูขั้นพื้นฐานตามธรรมชาติของมนุษย์
• คืนความอ่อนเยาว์ให้ผิว ซ่อมแซมและฟื้นฟูผิวหนัง อีกทั้งยังช่วยไปกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ผิวหนัง
• ฟื้นฟูสภาพผิวได้ครอบคลุมหลากหลายปัญหา
• รักษาปัญหาผิวได้อย่างตรงจุดและสามารถเห็นผลลัพธ์ได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ
• ขั้นตอนการฉีดไม่นาน โดยใช้เวลาเพียง 10-20 นาทีเท่านั้น
• ไม่เป็นแผล ไม่ต้องพักฟื้น สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันปกติได้
• เป็นกระบวนการที่ปลอดภัย เพราะไม่ใช่สารสังเคราะห์ จึงก่อให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคืองได้น้อย
• ขั้นตอนการทำไม่ยุ่งยาก มีระยะการรักษาอยู่ที่ประมาณ 4-6 ครั้งขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ความถี่ในการฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น (PRP) คือทุก ๆ 4 สัปดาห์ เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีเวลาไปคลินิกบ่อย ๆ

ฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น (PRP) ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?

กระบวนการทำ PRP นั้นจะทำให้ได้เกล็ดเลือดที่อุดมไปด้วยโปรตีนและสารอาหารต่าง ๆ ที่จำเป็นในการซ่อมแซมและฟื้นฟูผิวหนัง โดย PRP สามารถช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้ คือ จะไปช่วย

กระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ชั้นผิวหนัง ผลลัพธ์ที่ได้คือผิวมีความตึงกระชับ ยืดหยุ่น ช่วยลดริ้วรอยเหี่ยวย่น รอยดำ รอยสิว รอยแผลเป็น และหลุมสิวต่าง ๆ ช่วยกระชับรูขุมขนบนใบหน้า ช่วยฟื้นฟูให้ผิวกลับมามีสุขภาพดี ดูอ่อนเยาว์ และเปล่งปลั่งกระจ่างใส ฟื้นบำรุงสภาพผิวได้อย่างล้ำลึก และรวดเร็วกว่าการบำรุงผิวด้วยวิธีอื่น ๆ และนอกจากจะได้ผลลัพธ์ผิวสวยแล้ว การทำ PRP ยังเป็นตัวช่วยสำคัญในการรักษาอาการข้อเสื่อมและภาวะผมร่วงได้อย่างเห็นผลอีกด้วย

ฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น (PRP) อันตรายไหม?

การฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น (PRP) ถือเป็นการะบวนการที่มีความปลอดภัยสูง เนื่องจากเกล็ดเลือดที่ใช้เป็นเกล็ดเลือดของตัวเอง จึงเสี่ยงที่จะเกิดอาการแพ้ได้น้อย แต่ทั้งนี้หลังฉีดอาจมีผลข้างเคียงเล็กน้อย เช่น มีอาการปวดในบริเวณที่ฉีด หรืออาจมีรอยฟกช้ำเล็กน้อยจากเข็มฉีดยา แต่ทั้งนี้รอยฟกช้ำจะสามารถหายได้เองภายใน 3-5 วัน

ฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น (PRP) เหมาะกับใครบ้าง?

การฉีด PRP นั้นสามารถฉีดได้กับผู้ที่มีความกังวลด้านผิวพรรณ ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย รอยดำ รอยแดง รอยแผลเป็น รอยสิว หรือหลุมสิวต่าง ๆ รวมไปถึงผู้ที่มีปัญหารูขุมขนกว้าง ผิวแห้งกร้าน หรือผู้ที่ต้องการฟื้นฟูหรือบำรุงสุขภาพผิวให้ดีอยู่เสมอ

ฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น (PRP) ไม่เหมาะกับใครบ้าง?

การฉีด PRP ถึงแม้ว่าจะขึ้นชื่อว่ามีความปลอดภัยสูง แต่ทั้งนี้ก็ยังต้องระมัดระวังในคนบางกลุ่ม เช่น ผู้ที่กำลังอยู่ในช่วงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ผู้ที่กำลังอยู่ในช่วงใช้ยาสลายลิ่มเลือด หรือยาต้านภาวะแข็งตัวของเลือด ผู้ที่ป่วยเป็นโรคทางผิวหนังต่าง ๆ หรือป่วยเป็นโรคมะเร็งผิวหนัง ผู้ที่มีปัญหาเกี่ยวกับเลือด เช่น โลหิตจาง เกล็ดเลือดต่ำ เป็นต้น รวมไปถึงผู้ที่ป่วยเป็นโรคแพ้ภูมิตัวเองก็ไม่ควรฉีด PRP ด้วย

ฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น (PRP) กี่ครั้งถึงเห็นผล

การฉีด PRP มีระยะการรักษาอยู่ที่ประมาณ 4-6 ครั้ง ซึ่งจะขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลโดยคุณหมอจะเป็นผู้ประเมินให้ว่าควรฉีดกี่ครั้ง ความถี่ในการฉีด PRP คือทำทุก ๆ 4 สัปดาห์ 

ผลของการฉีด PRP นั้นขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล โดยมีปัจจัยต่าง ๆ เข้ามามีส่วนต่อประสิทธิภาพของผลลัพธ์ คือ อายุ อาการ รวมไปถึงการดูแลตัวเองหลังฉีดด้วย

ก่อนฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น (PRP) ต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง

ก่อนการฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น (PRP) จะมีคำแนะนำเพื่อเตรียมตัวก่อนฉีด ดังนี้

• ดื่มน้ำเยอะ ๆ ปริมาณน้ำที่แนะนำคือที่ 1-2 ลิตรต่อวัน เป็นเวลา 2-3 วันก่อนฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น (PRP)
• งดทานของมัน ของทอด อาการไขมันสูงก่อนฉีด PRP อย่างน้อย 1 วัน
• พักผ่อนให้เพียงพอ อย่างน้อยเป็นเวลา 8 ชั่วโมง
• เตรียมเวลาเผื่อไว้สำหรับการฉีด 1 ชั่วโมง

การดูแลตัวเองหลังฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น (PRP)

หลังฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น (PRP) คุณหมอก็จะมีคำแนะนำสำหรับการดูแลตัวเองด้วยเช่นเดียวกัน คือ

• งดล้างหน้าหลังฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น (PRP) ประมาณ 6-8 ชั่วโมง เพื่อให้สเตมเซลล์เคลือบผิวไว้
• ทาครีมบำรุงและครีมกันแดดเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะในช่วงที่ผิวมีอาการลอกแดง
• งดการสัมผัส แกะ หรือดึงผิวที่กำลังลอกแดง เพราะเป็นกระบวนการปกติหลังฉีด โดยอาการเหล่านี้จะหายไปหลังฉีด 2-3 วัน
• งดแต่งหน้า งดใช้ผลิตภัณฑ์ไวท์เทนนิ่ง หรือผลิตภัณฑ์ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว
• หลีกเลี่ยงการโดนแดดหนัก ๆ ประมาณ 1-2 สัปดาห์

ทำไมต้องฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น (PRP) ที่ Skinserity?

การฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น (PRP) เป็นเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่กำลังเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก เพราะมีความปลอดภัยสูง แถมยังไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น และไม่ต้องเจ็บตัว ผลลัพธ์ที่ได้จะให้ผิวที่ดูสดใส เปล่งปลั่ง สุขภาพดี แต่ทั้งนี้ การฉีดเกล็ดเลือดเข้มข้น (PRP) ต้องอาศัยทักษะและความชำนาญในกระบวนการทำ ซึ่งที่ Skinserity มีบริการฉีด PRP กระตุ้นฟื้นฟูผิวโดยคุณหมอผู้เชี่ยวชาญ พร้อมรีวิวแน่นจากผู้ใช้บริการจริง