![ฉีดสเต็มเซลล์](https://cdn.prod.website-files.com/63ce394fd49da4794b57cf84/641a9414ee3fcb334f198761_web-other.jpg)
การรักษาด้วยฉีดสเต็มเซลล์
การฉีดสเต็มเซลล์แบบใหม่ที่ง่าย ปลอดภัย และราคาไม่แพง
แนวทางของเราสำหรับศูนย์การรักษาชะลอวัยในการบริหารเป้าหมายของ Stem Cells (MSC) การบริหารสเต็มเซลล์อย่างเหมาะสมสามารถให้ประโยชน์ในการต่อต้านริ้วรอยหลายประการ
เมื่อให้ได้รับการรักษาแล้ว เซลล์จะแบ่งตัวเพื่อทดแทนเซลล์เก่าหรือเซลล์ที่เสียหาย และส่งผลต่อสุขภาพโดยรวมของร่างกายผู้ป่วยและส่วนประกอบต่างๆ
การดูแลสเต็มเซลล์อย่างเหมาะสมสามารถให้ประโยชน์หลายประการสำหรับการชะลอวัย พวกเขาสามารถ:
- เติมสเต็มเซลล์ที่แก่ชราของผู้ป่วย
- สร้างเนื้อเยื่อที่เสื่อมโทรมตามอายุ
- ปรับและควบคุมระบบภูมิคุ้มกัน
- ลดการอักเสบทั่วร่างกาย
- กระตุ้นให้เซลล์ที่เสียหายซ่อมแซมตัวเอง
- ฟื้นฟูทั้งแบบตรงเป้าหมายและแบบองค์รวม
![](https://cdn.prod.website-files.com/63ce394fd49da4794b57cf84/65e5b026886e759ea98d2dde_654491a4666c4b9da3e10e39_Multi-Perfecting%2520Enerpeel%2520Chemical%2520Peel%2520_%2520Radium%2520Medical%2520Aesthetics%2520Singapore%2520(1).jpeg)
บริเวณที่ทำการรักษา
ฟื้นฟูผิว
- การปรับปรุงพื้นผิวและโทนสีผิว
ฉีดข้อ
- การปรับปรุงอาการปวดข้อเรื้อรัง
การปลูกผมแบบไม่ต้องผ่าตัด
- เสริมการเจริญเติบโตของเส้นผมด้วยสเต็มเซลล์
ฟื้นฟูร่างกายโดยรวม
- เติมเต็มเซลล์ของคุณด้วยการบำบัดด้วยสเต็มเซลล์
ผลลัพท์หลังการรักษา
- ไม่จำเป็นต้องใช้เวลาในการพักฟื้น คุณสามารถกลับไปใช้ชีวิตที่แอคทีฟได้แทบจะในทันที
- รู้สึกสดชื่นและกระปรี้กระเปร่าภายใน 1-5 วันหลังการรักษาสำหรับโปรแกรมร่างกายทั้งหมด
- ผิวเรียบเนียนขึ้น ผลัดเซลล์ผิวเก่าอย่างอ่อนโยน ซึ่งจะแก้ไขได้เองภายใน 7 วัน
- ทรีทเม้นท์บำรุงเส้นผมและหนังศีรษะ คาดหวังให้รากผมแข็งแรงและผมหนาขึ้นภายในหนึ่งเดือนของการรักษา
- การฉีดข้อ อาการปวดข้อจะทุเลาลงภายใน 3 วันของการรักษา และคาดว่าจะอยู่ได้นานถึง 10 เดือนด้วยการฉีด PRP ระหว่างช่วงเวลา
ฉีดสเต็มเซลล์ที่ Skinserity
เราใช้สเต็มเซลล์จากแล็บที่ได้รับการรับรองจาก AABB ที่ดีที่สุดเท่านั้น
เซลล์ที่มีชีวิต 5 ล้านเซลล์นั้นดีกว่าเซลล์ที่มีชีวิตต่ำ 50 ล้านเซลล์เสมอ
5 ล้านเซลล์ - 55000 บาท/บริเวณที่ฉีด
การฉีดสเต็มเซลล์คืออะไร ช่วยเรื่องอะไรได้บ้าง?
ความอ่อนเยาว์ เป็นสิ่งที่ใคร ๆ ต่างก็ต้องการไม่ว่าจะเพศไหน ๆ จึงทำให้มีการคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ ๆ ขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านั้น การฉีดสเต็มเซลล์เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับผู้ที่กำลังประสบปัญหาเซลล์ในร่างกายเสื่อมสภาพที่สามารถมอบผลลัพธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ฉีดสเต็มเซลล์คืออะไร?
สเต็มเซลล์ หรือในชื่อเรียกไทย ๆ ว่า “เซลล์ต้นกำเนิด” เป็นเซลล์ตัวอ่อนที่ยังไม่มีหน้าที่ใด ๆ แต่สามารถแบ่งตัวได้โดยไร้ขีดจำกัด และสามารถเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อไปทำหน้าที่เฉพาะต่าง ๆ ได้ เช่น เปลี่ยนแปลงกลายเป็นเซลล์เนื้อเยื่อชนิดต่าง ๆ เปลี่ยนแปลงตัวเองไปเป็นเซลล์ประสาท หรือแม้แต่เปลี่ยนแปลงตัวเองไปเป็นเซลล์เม็ดเลือด เป็นต้น
เราสามารถพบสเต็มเซลล์ได้ในร่างกายของคนเราไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ โดยสเต็มเซลล์นั้นมีประโยชน์ในการช่วยซ่อมแซมบาดแผลและสร้างเซลล์ใหม่ขึ้นมาเพื่อทดแทนเซล์ต่าง ๆ ที่เสียหายไป
สเต็มเซลล์ถือว่าเป็นที่สุดของวงการแพทย์ทุกแขนง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในวงการแพทย์ผิวหนังและความงาม เพราะในวงการนี้จะเรียกได้ว่าเป็นการใช้เซลล์เพื่อซ่อมแซมเซลล์ การฉีดสเต็มเซลล์จะเป็นการไปเพิ่มจำนวนเซลล์ใหม่ ๆ ที่ยังคงมีชีวิตและมีความสดใหม่ จะไปกระตุ้นให้เซลล์ซ่อมแซมตัวเองได้อย่างรวดเร็ว ให้ผิวดูอ่อนเยาว์ และดูเด็กอยู่เสมอ
ฉีดสเต็มเซลล์เป็นอย่างไร ช่วยเรื่องอะไรบ้าง?
การฉีดสเต็มเซลล์ คือ การฉีดเซลล์ต้นกำเนิดที่มีคุณสมบัติในการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของตัวเองเพื่อไปซ่อมแซมบาดแผลและสร้างเซลล์ใหม่ ๆ ขึ้นมาเพื่อทดแทนเซลล์ที่เสียหายบนผิวหน้า ผลลัพธ์ที่ได้คือริ้วรอยบนผิวดูลดเลือนลง ช่วยขับผิวให้ดูกระจ่างใสมากยิ่งขึ้น เป็นการย้อนอายุของผิวให้กลับมาดูเปล่งปลั่งและอ่อนเยาว์อีกครั้ง
สำหรับการฉีดสเต็มเซลล์เพื่อช่วยในเรื่องของความงามนั้นเป็นสเต็มเซลล์ที่มาจากสายสะดือเป็นส่วนใหญ่ เห็นว่าร่างกายสามารถผลิตสเต็มเซลล์ได้เอง หลาย ๆ คนอาจจะมีความสงสัยกันเข้ามาว่า ในเมื่อร่างกายของเราสาามารถผลิตสเต็มเซลล์ขึ้นมาได้เองตามธรรมชาติ ทำไมจึงยังต้องมีการฉีดสเต็มเซลล์เข้าสู่ร่างกายเพิ่มเข้าไปอีก
เหตุผลเบื้องหลังการฉีดสเต็มเซลล์นั้นก็เพราะว่าร่างกายของเราสามารถผลิตสเต็มเซลล์ขึ้นมาได้เองเพียงเล็กน้อยเท่านั้น และในการจะนำสเต็มเซลล์มาใช้จะต้องมีการกระตุ้นให้เกิดเซลล์จำนวนมากขึ้น โดยการนำสเต็มเซลล์ไปทำการเพาะเลี้ยงเพื่อให้มีจำนวนที่มากขึ้น และมากเพียงพอที่จะนำไปใช้ประโยชน์ต่อ
การฉีดสเต็มเซลล์จะช่วยเรื่องต่าง ๆ เช่น
- ช่วยลดเลือนริ้วรอยและรักษารอยแผลต่าง ๆ ช่วยให้ผิวพรรณดูเปล่งปลั่งและดูอ่อนเยาว์อย่างชัดเจน
- ช่วยซ่อมแซมและฟื้นฟูผิวที่เสื่อมสภาพ
- ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับชั้นผิวหนังแท้
- ช่วยเพิ่มจำนวนเซลล์ที่ทำหน้าที่ในการผลิตคอลลาเจนและอิลาสตินใต้ชั้นผิวหนัง
- กระตุ้นการทำงานของสารต้านอนุมูลอิสระ
การทำงานของการฉีดสเต็มเซลล์
การฉีดสเต็มเซลล์เป็นกระบวนการทางการแพทย์ที่ใช้ในการรักษาและฟื้นฟูเนื้อเยื่อและอวัยวะต่าง ๆ ภายในร่างกาย โดยมีขั้นตอนการทำงาน ดังนี้
- ก่อนที่จะทำการฉีดสเต็มเซลล์คุณหมอจะทำการตรวจสภาพร่างกายของผู้ป่วย เช่น ประวัติการเจ็บป่วย ประวัติการผ่าตัด และประวัติการใช้ยา เพื่อประเมินความพร้อมและความเหมาะสมของการฉีดสเต็มเซลล์และเพื่อรับรองความปลอดภัยในการรักษา
- เซลล์ของสเต็มเซลล์จะถูกสกัดจากแหล่งต่าง ๆ ที่เหมาะสมภายในร่างกาย เช่น เนื้อเยื่อไขมันหรือเม็ดเลือดขาว โดยกระบวนการสกัดนี้จะใช้เทคนิคและวิธีการที่มีความเฉพาะเจาะจงกับแต่ละประเภทของสเต็มเซลล์
- เมื่อได้สเต็มเซลล์พร้อมแล้ว คุณหมอจะทำการฉีดสารลงในบริเวณผิวหน้าที่ต้องการรักษา ส่วนใหญ่จะเป็นการฉีดโดยใช้เข็มเล็ก ๆ เพื่อให้สามารถเข้าถึงตำแหน่งที่ต้องการได้อย่างแม่นยำ
- หลังจากการฉีดสเต็มเซลล์แพทย์จะให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดูแลและรักษาหลังจากทำการฉีดสเต็มเซลล์ ซึ่งหากต้องการผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ แนะนำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของคุณหมอ
ฉีดสเต็มเซลล์ตำแหน่งใดได้บ้าง?
การฉีดสเต็มเซลล์นั้นสามารถฉีดได้ในหลากหลายตำแหน่งของร่างกาย ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และปัญหาที่ต้องการแก้ไข ตำแหน่งที่เป็นที่นิยมฉีดกันส่วนมาก เช่น
- การฉีดที่บริเวณผิวหน้า เพื่อหวังผลลัพธ์เรื่องการลดริ้วรอยร่องลึกต่าง ๆ ผลลัพธ์ที่ได้ คือ ผิวหน้าเต่งตึงเรียบเนียน รูขุมขนกระชับ ผิวกระจ่างใสมากขึ้น เช่น บริเวณผิวหน้าและลำคอ บริเวณร่องแก้ม ร่องใต้ตา หน้าผาก แก้ม โดยจำนวนเซลล์ที่ใช้ในการฉีดบริเวณนี้เริ่มต้นที่ 5 ล้านเซลล์ แต่ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับสภาพผิวหน้าของแต่ละคน รวมถึงขึ้นอยู่กับการประเมินของคุณหมอ
- ฉีดเข้าหลอดเลือดดำ เพื่อหวังผลลัพธ์ในการฟื้นฟูและสร้างเซลล์ผิวพรรณให้ดูกระชับ เต่งตึง ช่วยปรับสมดุลผิวให้มีความขาวกระจ่างใส ผิวจะมีความเปล่งปลั่ง แข็งแรง อ่อนเยาว์ มีน้ำมีนวล ริ้วรอยดูลดเลือนลง ผิวพรรณเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยป้องกันผื่นแพ้ต่าง ๆ ได้ การฉีดสเต็มเซลล์เข้าหลอดเลือดดำนั้นจะใช้จำนวนเซลล์เริ่มต้น 15-20 ล้านเซลล์ ขึ้นอยู่กับสภาพผิวของแต่ละคน และการประเมินของคุณหมอด้วย
ขั้นตอนการฉีดสเต็มเซลล์
การฉีดสเต็มเซลล์เป็นกระชวนการที่ควรทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เนื่องจากจะต้องมีการประเมินร่างกาย รวมไปถึงคำนวณจำนวนของสเต็มเซลล์ที่จำเป็นต้องใช้ในการฉีด โดยขั้นตอนในการฉีดสเต็มเซลล์ มีดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 พูดคุยและปรึกษาแพทย์
ก่อนที่จะเข้ารับการฉีดสเต็มเซลล์ ควรเข้าปรึกษาแพทย์เพื่อตรวจสอบสภาพปัญหาผิวพรรณเชิงลึดเพื่อใช้ในการคำนวณจำนวนเซลล์สำหรับใช้ในการฉีดในแต่ละเคส เพราะจำนวนสเต็มเซลล์ที่ใช้ในการฉีดให้แต่ละคนนั้นจะใช้ในจำนวนที่แตกต่างกันออกไป นอกจากนี้ การพูดคุยและปรึกษาแพทย์ก่อนทำการฉีดสเต็มเซลล์ยังไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ อีกด้วย
ขั้นตอนที่ 2 ทำการจองสเต็มเซลล์
การสั่งจองสเต็มเซลล์สดใหม่นั้นจะใช้เวลาสั่งจองล่วงหน้าได้ไม่น้อยกว่า 3 วัน ซึ่งสเต็มเซลล์ที่สั่งจองไปนั้นเป็นสเต็มเซลล์ที่ถูกเลี้ยงอยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีความเหมาะสม และจะถูกทางห้องแล็บปฏิบัติการคัดเลือกมาอย่างสดใหม่ และเป็นสเต็มเซลล์ที่มีชีวิต
ขั้นตอนที่ 3 การฉีดสเต็มเซลล์
ก่อนฉีดสเต็มเซลล์ จะมีการแปะยาชาก่อนเป็นระยะเวลาประมาณ 45 นาที และจะมีการเปิดผิวเพื่อให้ผิวเกิดอาการบาดเจ็บเล็กน้อย เป็นกลยุทธ์ในการล่อให้สเต็มเซลล์ใหม่เข้าไปซ่อมแซมเซลล์ผิวเก่า จากนั้นจะทำการฉีดสเต็มเซลล์ โดยระยะเวลาการฉีดนั้นจะใช้เวลาแค่ประมาณ 30 นาทีเท่านั้น
ใครเหมาะกับการฉีดสเต็มเซลล์?
การฉีดสเต็มเซลล์นั้นเหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 35 ปีขึ้นไปและมีสภาพผิวที่อ่อนแอ ผ่านการรักษาหรือทำทรีตเมนต์มาแล้วก็ยังไม่ได้ผลลัพธ์ที่เป็นที่น่าพึงพอใจ สเต็มเซลล์จะไปช่วยฟื้นฟูผิวให้ลึกถึงระดับเซลล์ ทำให้ผิวแข็งแรง และตอบสนองต่อการรักษาด้วยวิธีต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
นอกจากการฉีดสเต็มเซลล์จะเหมาะกับผู้ที่ผ่านการรักษาด้วยวิธีอื่นมาแล้วไม่ได้ผลแล้วนั้น ยังเหมาะกับผู้ที่ต้องการเตรียมผิวให้พร้อมสำหรับการทำยกกระชับผิวอย่างอัลเทอร่าหรือเทอร์มาจ เมื่อผิวถูกเตรียมพร้อมและมีความแข็งแรงไปจนถึงระดับเซลล์ ก็จะช่วยเสริมประสิทธิภาพให้เกิดการยกกระชับได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
ข้อดีของการฉีดฉีดสเต็มเซลล์
การฉีดสเต็มเซลล์นั้นมีข้อดีมากมาย ทั้งช่วยในเรื่องของการปรับผิวให้มีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยเสริมประสิทธิภาพของผลลัพธ์จากการยกกระชับผิวด้วยวิธีอื่น ๆ นอกจากนี้ ยังมีข้อดีต่อผิวอีกมากมายหลากหลายประการ ดังนี้
- กระตุ้นการผลัดเซลล์ผิวใหม่ ช่วยให้ผิวหน้าดูอ่อนเยาว์และผิวดูมีความเรียบเนียนสม่ำเสมอมากยิ่งขึ้น
- ช่วยเพิ่มคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ชั้นผิว ซึ่งคอลลาเจนและอีลาสตินใต้ชั้นผิวนั้นเป็นส่วนสำคัญของผิวหน้า ทำให้ผิวดูกระชับและดูเต่งตึง ไร้ริ้วรอยที่เกิดจากการเสื่อมสภาพของผิว
- สเต็มเซลล์มีคุณสมบัติในการลดการอักเสบของผิวหน้า ช่วยลดอาการบวม และความรุนแรงของการเกิดสิว ทำให้ผิวหน้าดูสดใสและอ่อนเยาว์มากขึ้น
- ช่วยบำรุงผิวหน้าได้เป็นอย่างดี เนื่องจาก Stem cell มีสารอาหารที่จำเป็นสำหรับผิวหน้ามากมาย เช่น วิตามิน และสารต้านอนุมูลอิสระ ทำให้ผิวหน้าได้รับสารอาหารเพียงพอและมีสุขภาพดี
- สเต็มเซลล์มีคุณสมบัติในการลดรอยแดงและแผลเป็น ทำให้ผิวหน้าดูเรียบเนียนมากยิ่งขึ้น
- สเต็มเซลล์ที่ใช้ในการฉีดมาจากเนื้อเยื่อของผู้ฉีดเอง จึงไม่มีความเสี่ยงในเรื่องของการตกค้าง หรือภาวะแพร่กระจายของสารเคมีจากการใช้สเต็มเซลล์จากภายนอก
สรุปการฉีดสเต็มเซลล์ ทำไมต้องฉีดที่ Skinserity?
การเลือกใช้บริการฉีดสเต็มเซลล์ ที่คลินิก Skinserity นั้นถือเป็นทางเลือกที่ปลอดถัย เนื่องจากมีแพทย์ผู้มีความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ที่ยาวนานในการดูแลผิวหน้าและการใช้เทคโนโลยี สเต็มเซลล์ที่ทันสมัยคอยให้บริการ อีกทั้งยังให้บริการด้วยความปลอดภัย มอบผลลัพธ์เป็นที่น่าถึงพอใจ อีกทั้งยังสามารถหารีวิวจากผู้ใช้จริงอ่านได้
ขั้นตอนการรักษา
- ปรึกษาแผนการรักษาแบบส่วนตัวกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของเรา
- จองล่วงหน้าสำหรับเซสชั่นสเต็มเซลล์ (ล่วงหน้า 3 วัน)
- การทำความสะอาดผิว
- การทำเครื่องหมายพื้นที่การรักษา
- ฉีดสเต็มเซลล์
- ดูแลหลังการรักษาอย่างใกล้ชิดและเป็นส่วนตัวด้วยทีมงานมืออาชีพของเรา
- แนะนำให้ใช้ประคบเย็นและนวดเบา ๆ บริเวณที่รักษา
- รับประทานยาตามแพทย์สั่ง (หากได้รับ)
- หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายที่มีความเข้มข้นสูงใน 24 ชั่วโมงแรก
- หลีกเลี่ยงสารเคมีโดยตรง/สารระคายเคืองบริเวณที่ทำการรักษา
- ขั้นตอนการล้างหน้าและดูแลผิวหน้าตามปกติ
- แจ้งแพทย์/ทีมทันทีหากมีการเปลี่ยนสีหรือการอักเสบของบริเวณที่ทำการรักษา
รีวิวจากลูกค้าของเรา
มั่นใจด้วยรีวิวจากลูกค้าของเรา
ลูกค้าของเราคิดอย่างไร
จริงใจ อบอุ่น และปลอดภัย