เมโสแฟต

การฉีดเมโสแฟต

หากคุณกำลังมองหาวิธีแก้ปัญหาเหล่านี้ การฉีดสลายไขมันคือคำตอบของคุณ ด้วยการคัดสรรอย่างพิถีพิถัน เราใช้การบำบัดที่ผ่านการรับรองจาก อย. เพื่อผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัยที่สุด

ขั้นตอนก่อนฉีด:

• แพทย์ประเมิน
• เตรียมผิว
• ทายาชา
• ฉีดด้วยเข็มขนาดเล็ก

การดูแลหลังฉีด:

• อาการบวมเล็กน้อยจะบรรเทาลงภายใน 24 ชั่วโมง
• อาจพบรอยฟกช้ำได้บ้างในบางบริเวณ
• การใช้เจลป้องกันรอยช้ำ

เมโสแฟต VS ดูดไขมัน จุดที่ใช่ในการทำ

ในบริเวณที่มีหลอดเลือดและเส้นประสาทสำคัญจำนวนมาก เช่น ใบหน้าและลำคอ ไม่แนะนำให้ทำการดูดไขมัน เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดผลข้างเคียง แนะนำให้ทำเมโสแฟตหรือเครื่องมือยกกระชับอื่น ๆ เพื่อเก็บรายละเอียดได้ดีและปลอดภัยกว่า

ผลลัพท์หลังการฉีด

หลังฉีดไขมัน Meso Fat บริเวณที่ทำการรักษาอาจบวมเล็กน้อยประมาณ 6-8 ชั่วโมง ตัวยาจะค่อย ๆ ซึมลงและอาการบวมจะหายไปในเวลาไม่นาน

คุณควรดื่มน้ำมากๆ มากถึง 2 ลิตรต่อวัน การดื่มน้ำจะช่วยเพิ่มการขับถ่ายของไขมันที่สลายตัว

อย่างไรก็ตาม การฉีดสลายไขมันไม่ได้เป็นการขจัดเซลล์ไขมันออกจากร่างกายอย่างถาวร ช่วยในการลดขนาดเซลล์ไขมัน ดังนั้นแนะนำให้รักษาน้ำหนักตัวหลังทำเพื่อผลลัพธ์ที่ยาวนาน

การฉีดสลายไขมันสามารถฉีดซ้ำได้ทุก 2 สัปดาห์ จนกว่าจะได้โครงร่างที่ต้องการ

*  มีข้อห้ามในการตั้งครรภ์และให้นมบุตร
* ควรปรึกษาแพทย์ก่อนฉีด

เมโสแฟตที่ Skinserity

ในฐานะคลินิกที่คุณไว้วางใจ ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของเราปลอดภัยและผ่านการรับรองจาก อย.

Fat lysis injection at cheeks/ under chin: 3,000 บาท/บริเวณ

Fat lysis injection at body area: 6,500 บาท/บริเวณ

ฉีดเมโสแฟตคืออะไร อยากลดไขมันฉบับเร่งด่วนทำได้ไหม?

การฉีดเมโสแฟต เป็นหนึ่งในบริการที่เป็นที่นิยมมากที่สุดอีกอย่างหนึ่งในคลินิกความงาม โดยเป็นเทคโนโลยีที่เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดไขมันแบบเร่งด่วนและเห็นผลอย่างรวดเร็วทันใจ

ฉีดเมโสแฟตคืออะไร ฉีดบริเวณใดได้บ้าง?

เมโสแฟต (Meso fat) เป็นกระบวนการฉีดสารสกัดที่ประกอบด้วยสารจากถั่วเหลือง วิตามิน และแร่ธาตุต่าง ๆ ลงไปในชั้นไขมันของผิวโดยมีจุดประสงค์เพื่อไปสลายไขมันในจุดที่ต้องการ กระบวนการนี้จะเป็นการทำให้ผนังไขมันที่ติดกันเป็นก้อนมีความเจือจางลงและสลายกลายเป็นไขมันเหลว และจะถูกร่างกายขับออกไปจากร่างกายด้วยกระบวนการเผาผลาญตามธรรมชาติ โดยไขมันที่ถูกสลายนั้นจะถูกขับออกทางของเสียซึ่งเป็นการกำจัดออกจากร่างกายที่ง่ายและรวดเร็ว ดังนั้น Meso fat เป็นกระบวนการที่ช่วยในการลดไขมันในจุดที่เราต้องการนั่นเอง

โดยทั่ว ๆ ไปแล้ว คนส่วนใหญ่มักจะนิยมฉีดเมโสแฟตในบริเวณแก้มและเหนียงเป็นอันดับแรก เพื่อให้กรอบหน้าดูเล็กลงและใบหน้าดูเรียวกระชับมากขึ้น นอกจากนี้ การฉีดเมโสแฟตนั้นยังนิยมฉีดในบริเวณอื่น ๆ ของร่างกายด้วย เช่น ต้นแขน หน้าท้อง ต้นขา น่อง และสะโพก เป็นต้น

ฉีดเมโสแฟตช่วยเรื่องอะไรบ้าง?

เมโสแฟตเป็นวิธีการที่ช่วยในกระบวนการสลายไขมันและเหมาะสำหรับคนที่ต้องการลดไขมันตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายอย่างรวดเร็วกว่าวิธีปกติ การฉีดเมโสแฟตสามารถลดไขมันในบริเวณแก้มและเหนียงได้ ซึ่งถือเป็นวิธีที่เป็นที่นิยมสำหรับคนที่ต้องการปรับรูปผน้าให้ดูเรียวขึ้น อีกทั้ยังสามารถฉีดเพื่อลดขนาดต้นแขน ต้นขา และสะโพก นอกจากนี้ยังสามารถลดไขมันในจุดที่มีการสะสมมาก ๆ ได้อีกด้วย

ฉีดเมโสแฟตเหมาะกับใครบ้าง?

เมื่อตัดสินใจแล้วว่าต้องการฉีดเมโสแฟต ควรใช้บริการจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและควรรับการประเมินจากแพทย์ก่อนเพื่อทำการประเมินตำแหน่งในการฉีดเมโสแฟต โดยผู้ที่เหมาะกับการฉีดเมโสแฟต คือ ผู้ที่ต้องการลดไขมันที่บริเวณใบหน้า เช่น แก้ม เหนียง โดยต้องการเห็นผลอย่างชัดเจนในระยะเวลาสั้น ๆ ภายใน 5-7 วัน และเหมาะกับผู้ที่ต้องการใช้สารที่สกัดมาจากธรรมชาติ 100% ที่ปลอดภัยต่อการนำมาใช้ในกระบวนการสลายไขมัน ซึ่งไขมันเหล่านั้นจะถูกขับออกทางปัสสาวะ อีกทั้งยังเหมาะกับผู้ที่ไม่ค่อยมีเวลา เพราะทำเพียงแค่ 3-4 ครั้งก็สามารถเห็นผลได้อย่างชัดเจนแล้ว

การฉีดเมโสแฟตนั้นยังมีข้อจำกัดบางอย่างที่ไม่อาจทำให้สามารถฉีดได้หับคนทุกกลุ่ม โดยกลุ่มคนที่ไม่ควรฉีดเมโสแฟต คือ ผู้ที่อายุยังไม่ถึง 18 ปี สตรีที่มีครรภ์หรืออยู่ในระหว่างให้นมบุตร ผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคระบบหลอดเลือดผิดปกติในสมอง เส้นเลือดสมองตีบ หรืออุดตัน คนไข้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง ผู้ที่กำลังรักษาโรคมะเร็ง โรคหัวใจ หรือมีการเต้นของหัวใจผิดจังหวะ ผู้ที่ป่วยเป็นโรคเบาหวานและต้องฉีดอินซูลินเป็นประจำ หรือมีการรักษาด้วยยาหลายชนิด

เทียบความแตกต่างของฉีดเมโสแฟตกับวิธีอื่น ๆ

นอกเหนือจากการฉีดเมโสแฟตแล้ว ยังมีวิธีอื่น ๆ ที่สามารถใช้เป็นทางเลือกในการลดสัดส่วนไขมันเกินได้อีกหลายวิธี เช่น

• Thermage: เป็นเทคโนโลยีที่ใช้พลังงานคลื่นวิทยุสูง (High Radio Frequency) ส่งผ่านเข้าไปใต้ชั้นผิวหนังเพื่อลดเซลล์ไขมันส่วนเกินและแก้ปัญหาความหย่อนคล้อยของผิว ผลลัพธ์ที่ได้คือผิวกระชับและลดเรือนริ้วรอยแห่งวัยได้ เช่น บริเวณหน้าผาก หางคิ้ว และใต้ตา
• HIFU: เป็นเทคโนโลยีการใช้พลังงานอัลตราซาวด์ (Ultrasound) เพื่อลดเซลล์ไขมันส่วนเกิน พร้อมทั้งช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนในผิวเพื่อให้ผิวยืดหยุ่นและแข็งแรง ผลลัพธ์ที่ได้คือผิวที่หย่อนคล้อยจะดูตึงกระชับมากยิ่งขึ้น เครื่องที่ใช้งานได้รับความนิยมมากที่สุดคือ เครื่องอัลเทอร์รา (Ulthera) และเครื่องอัลตราฟอร์เมอร์ (Ultraformer III)
• โบท็อกซ์: เป็นการฉีดสารโบทูลินั่มท็อกซินเอที่ช่วยยกกระชับผิวให้เต่งตึงและได้กรอบหน้าที่มีโครงชัดสวยงาม อีกทั้งยังช่วยลดริ้วรอยแห่งวัยและลดความหย่อนคล้อยได้ การฉีดโบท็อกซ์เป็นหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมและยังช่วยลดอาการเหงื่อออกผิดปกติตามร่างกายได้

การฉีดเมโสแฟตและวิธีการอื่น ๆ เพื่อลดไขมันส่วนเกินมีหลักการทำงานแตกต่างกันไป การฉีดเมโสแฟตจะเป็นการใช้สารเพื่อเร่งกระบวนการต่าง ๆ ของร่างกายให้นำไขมันส่วนเกินออกไปมากที่สุด ในขณะที่วิธีการอื่น ๆ จะมีกลไกการกำจัดไขมันที่แตกต่างกัน เช่น เทอร์มาจและไฮฟู่ใช้พลังงานจากเครื่องเพื่อส่งผ่านผิวเพื่อลดเซลล์ไขมันส่วนเกิน แต่เทอร์มาจมีข้อดีเพิ่มเติมในเรื่องของการลดริ้วรอยแห่งวัยได้ และมีจุดเด่นในเรื่องระยะเวลาของผลลัพธ์ที่เห็นผลได้นานถึง 1-2 ปี แต่ก็มีข้อเสียคือการทำเทอร์มาจมักมีราคาสูงและอาจมีความเจ็บปวดมากกว่าการทำไฮฟู่ การฉีดโบท็อกซ์จะเน้นการกระชับกล้ามเนื้อผิวหนังให้หดเล็กลง ซึ่งอาจไม่ช่วยลดสัดส่วนไขมันได้น้อย แต่จะช่วยยกกระชับผิวให้เต่งและดูสวยงามมากกว่า

การฉีดเมโสแฟตเป็นกระบวนการที่ฉีดสารยาลงไปใต้ผิว ซึ่งไม่ต่างจากการฉีดยาทั่วไป หลังฉีดเมโสแฟตแล้วสามารถกลับบ้านได้ทันทีและแพทย์จะแนะนำข้อควรปฏิบัติในการดูแลตนเอง เช่น งดอาหารที่มีไขมันสูง งดวิตามินบางกลุ่มชั่วคราว ออกกำลังกายบ่อย ๆ โดยผลลัพธ์อาจมีอยู่ประมาณ 3 เดือน

และสำหรับการดูดไขมัน ถือว่าเป็นกระบวนการที่คล้ายกับการผ่าตัดเล็ก ๆ อย่างหนึ่ง้ลยทีเดียว โดยบางคลินิกจะมีการให้ยาแก้ปวด ยาฆ่าเชื้อ หรือยาสลบก่อนทำ ธีการดูดไขมันเป็นการสอดท่อเล็ก ๆ ลงไปใต้ผิวเพื่อดูดไขมันส่วนเกินออกมา และอาจต้องมีการเย็บแผล ต้องไปตรวจสอบแผลหลังการรักษาเสร็จเพื่อให้แน่ใจว่าร่างกายฟื้นตัวสมบูรณ์

ดังนั้น การดูดไขมันอาจมีอาการเจ็บบวมหรืออักเสบมากกว่า ต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวและดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัดมากกว่า

การดูดไขมันมีจุดเด่นในการดึงเซลล์ไขมันทันทีและสามารถทำได้ในหลายบริเวณของร่างกาย หากได้รับบริการจากสถานพยาบาลที่มีเครื่องมือทันสมัยและมีความเชี่ยวชาญ การดูดไขมันเป็นวิธีการกำจัดไขมันที่น่าสนใจ แต่ทั้งนี้สำหรับใครที่ต้องการผลลัพธ์อย่างรวดเร็วว่องไว การีดเมโสแฟตนั้นเรียกได้ว่าเป็นวิธีที่ตอบโจทย์มากที่สุดอีกวิธีหนึ่งเลยทีเดียว

ข้อดีของการฉีดเมโสแฟต

การฉีดเมโสแฟต (Meso fat) มีข้อดีต่อไปนี้:

• เมโสแฟตเป็นการฉีดสารเพื่อลดไขมันส่วนเกิน ไม่ต้องผ่าตัด เพราะฉะนั้นจึงไม่จำเป็นต้องใช้เวลาในการฟื้นตัวหลังจากการฉีดเมโสแฟต
• หลังฉีดเมโสแฟตอาจมีบวมเล็กน้อยในช่วง 3-4 ชั่วโมงแรกเนื่องจากปริมาณสารที่ฉีดเข้าไป แต่อาการบวมจะหายไปเอง
• การฉีดเมโสแฟตไม่ใช้เวลานานเนื่องจากเป็นกระบวนการที่รวดเร็ว สามารถทำได้ในระยะเวลาสั้น ๆ
• ผลลัพธ์จากการฉีดเมโสแฟตสามารถเห็นได้เร็ว
• การฉีดเมโสแฟตถือเป็นกระบวนการที่มีความปลอดภัยสูง เนื่องจากไม่ต้องผ่าตัดหรือทำการเจาะเข้าไปในร่างกาย และสารที่ใช้เป็นสารที่ได้รับการทดสอบและอนุมัติจากองค์กรทางการแพทย์ รวมทั้งยังได้รับการรับรองจากองค์การอาหารละยา
• การฉีดเมโสแฟตมีราคาที่ไม่แพงมากเมื่อเปรียบเทียบกับหัตถการอื่น ๆ ที่ใช้ในการลดไขมัน จึงเป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและเหมาะสมสำหรับผู้ที่ต้องการลดไขมันแต่ไม่ต้องการกระบวนการที่ซับซ้อนหรือต้องพักฟื้นใด ๆ

การดูแลตัวเองก่อนและหลังฉีด meso fat

เพื่อผลลัพธ์ในการฉีดเมโสแฟตที่ได้ปลลัพธ์ที่ดีที่สุด แนะนำให้เตรียมตัวก่อนฉีดเมโสแฟต ดังนี้

• ค้นหาข้อมูลคลินิกที่ให้บริการอย่างปลอดภัยและมีมาตรฐาน มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาคอยให้คำปรึกษาและดูแลความปลอดภัยในการฉีด มีการประเมินสภาพปัญหาเพื่อให้ได้ผลลัพท์ที่ดีที่สุดหลังฉีด
• พักผ่อนให้เพียงพอ และแจ้งโรคประจำตัวและประวัติการแพ้ยาให้แพทย์หรือทางคลินิกที่จะไปฉีดรับทราบก่อนทุกครั้ง นอกจากนี้ ยังควรงดยาในกลุ่มแอสไพรินอีกด้วย
• ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับเมโสแฟตให้ละเอียดเพื่อเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนการฉีด ผลลัพธ์ที่ได้ รวมถึงการดูแลตนเองหลังการฉีดเมโสแฟตด้วย

หลังฉีดเมโสแฟต แพทย์จะมีคำแนะนำในการดูแลตัวเองหลังฉีดเมโสแฟต ดังนี้

• หลังการฉีดเมโสแฟตอาจเกิดร่องรอยจากเข็มบ้าง ในกรณีนี้แนะนำว่าไม่ควรกดหรือนวดบริเวณที่ฉีดเพื่อป้องกันการอักเสบ
• ดื่มน้ำเพียงพอเพื่อส่งเสริมกระบวนการสลายไขมันและขับออกผ่านปัสสาวะและของเสียในร่างกาย
• ลดการทานอาหารไขมันสูงและอาหารทอดเพื่อป้องกันการสร้างไขมันใหม่ และควรออกกำลังกายเพื่อเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรงพร้อมเผาผลาญไขมันส่วนเกินในร่างกาย
• หลังฉีดเมโสแฟตประมาณ 48 ชั่วโมง ห้ามขัดหน้า นวดหน้า เลเซอร์หรือว่ายน้ำเพื่อป้องกันการติดเชื้อ
• งดการดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่อย่างน้อย 3 วันหลังจากการฉีด เพื่อให้ร่างกายมีเวลาฟื้นตัวและพักผ่อนให้เพียงพอ

ขั้นตอนการฉีดเมโสแฟต

ขั้นตอนการฉีดเมโสแฟตเพื่อลดไขมันส่วนเกินมีขั้นตอนดังนี้

• พบแพทย์เพื่อปรึกษาปัญหาเรื่องไขมันส่วนเกินและปัญหาผิวที่ต้องการยกกระชับ
• แพทย์จะทำการประเมินสภาพปัญหาด้วยการวัดปริมาณไขมันและคำนวณปริมาณสารและจำนวนครั้งที่ต้องฉีดให้เหมาะสมกับแต่ละเคสปัญหา
• ก่อนทำการฉีดเมโสแฟต แพทย์จะทำความสะอาดผิวหน้า และทำการประคบน้ำแข็งเพื่อช่วยบรรเทาความเจ็บปวดในขณะฉีด
• แพทย์จะเริ่มฉีดเมโสแฟตตามปริมาณที่เหมาะสม โดยทั่วไปจะใช้เวลาไม่เกิน 15 นาทีก็เสร็จสิ้น

ขั้นตอนการฉีดเมโสแฟตนั้นไม่จำเป็นต้องมีการพักฟื้นใด ๆ สามารถกลับบ้านและใช้ชีวิตได้ตามปกติ ทั้งนี้ แพทย์จะมีคำแนะนำหลังฉีดเมโสแฟต เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจสูงสุด

ฉีดเมโสแฟตราคาเท่าไร?

ราคาในการฉีดเมโสแฟตนั้นขึ้นอยู่กับแต่ละสูตร โดยแต่ละคลินิกจะมีราคาที่แตกต่างกันออกไป แต่ทั้งนี้ ราคาคร่าว ๆ ของแต่ละสูตร ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและบริเวณที่ฉีด โดยราคาเริ่มตั้งแต่ 3,000 บาทจนถึง 9,000 บาท โดยจะขึ้นอยู่กับปริมาณที่ฉีด

ฉีดเมโสแฟตยี่ห้อไหนดี?

สารเมโสแฟตในปัจจุบันนั้นมีหลากหลายยี่ห้อที่ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายและเป็นที่นิยมกันในคลินิก ทั้งนี้ การจะเลือกใช้เมโสแฟตยี่ห้อไหนดี แนะนำให้เลือกใช้ยี่ห้อที่ปลอดภัย ได้มาตรฐาน เชื่อถือได้ โดยดูได้จากการรับรองจากองค์การอาหารและยา และสำหรับยี่ห้อที่แนะนำ มีดังนี้

• Laura มีจุดเด่นที่ช่วยลดไขมันบริเวณแก้ม และเหนียงได้ดีที่สุด และสามารถทำให้โครงหน้าดูเรียวกระชับมากขึ้น มีข้อดีเรื่องการยกกระชับ โดยตัวยะจะไม่แสบและไม่บวม
• Sisi Body มีจุดเด่นในการสลายไขมันบริเวณลำตัวได้ดี ช่วยยกกระชับ ตัวยาไม่แสบ และไม่บวม เห้นผลไว
• Babi-lone มีจุดเด่นที่ช่วยแก้ปัญหาความหย่อนคล้อย โดยเฉพาะบริเวณแก้ม
• Mesoestetic มีจุดเด่นที่ช่วยเผาผลาญไขมันส่วนเกินที่สะสมอยู่ใต้ผิว ทำให้สัดส่วนร่างกาย เช่น เหนียง ต้นแขน สะโพก ต้นขา หรือน่องดูเล็กลง 

ฉีดเมโสแฟตที่ไหนดี

ในการฉีดเมโสแฟตให้ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุดนั้น ควรพิจารณาจากปัจจัยหลัก ๆ คือ คลินิกที่เปิดให้บริการต้องให้บริการอย่างมีมาตรฐาน ปลอดภัย เชื่อถือได้ และมีใบอนุญาตประกอบกิจการอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แพทย์ที่ฉีดต้องมีความเชี่ยซชาญและมีประสบการณ์ สารที่ใช้ต้องมีคุณภาพ ปลอดภัย ได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยา

และสำหรับคำถามฉีดเมโสแฟตที่ไหนดีนั้น แนะนำให้เลือกพิจารณาคลินิกที่เปิดให้บริการด้วยมาตรฐานเหล่านี้

• คลินิกที่ดีควรมีการรับรองจากกระทรวงสาธารณสุขหรือองค์กรที่เกี่ยวข้อง โดยก่อนตัดสินใจใช้บริการคลินิกใด ๆ แนะนำว่าให้มั่นใจว่าคลินิกนั้น ๆ มีใบอนุญาตประกอบการที่ชัดเจนและมีมาตรฐานความปลอดภัยและบริการที่ดี การเช็ครีวิวจากผู้เคยใช้บริการจริงเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้ามเพราะอาจช่วยให้ทราบรายละเอียดของคลินิกที่ต้องการไปใช้บริการมากขึ้น
• คลินิกที่ดีและมีมาตรฐานควรมีการใช้เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัยและมีความพร้อมใช้งาน นอกจากนี้ยังควรมีการเตรียมพร้อมสำหรับกรณีฉุกเฉิน เพื่อให้รู้สึกมั่นใจในเรื่องความปลอดภัยเบื้องต้นด้วย

นอกจากคลินิกจะต้องสะอาดและมีเครื่องไม้เครื่องมืออันทันสมัยที่พร้อมใช้งานแล้ว แพทย์ในคลินิกผู้ให้บริการก็เป็นอีกปัจจัยที่สำคัญ เพราะฝีมือของแพทย์นั้นส่งผลถึงผลลัพธ์ว่าจะเป็นที่น่าพึงพอใจมากแค่ไหน  คลินิกที่ดีควรมีแพทย์ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ใบหน้าและปัญหาที่ต้องการแก้ไข ควรมีความรู้และความชำนาญ และสามารถอธิบายกระบวนการฉีดเมโสแฟตได้อย่างชัดเจนและให้คำแนะนำที่เหมาะสมที่สุดในแต่ละเคสปัญหา

สรุปการฉีดเมโสแฟตทำไมต้องฉีดเมโสแฟตที่ Skinserity?

การฉีดเมโสแฟตที่คลินิก Skinserity นั้นมอบผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ เพราะคลินิกให้บริการอย่างมีมาตรฐาน ปลอดภัย ใช้เมโสของแท้ที่มีคุณภาพและผ่านการรับรองจากองค์การอาหารและยา จึงมั่นใจได้ในความปลอดภัยและประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในการฉีด มีทีมแพทย์และผู้เชี่ยวชาญที่คอยให้คำปรึกษาและวิเคราะห์ใบหน้าอย่างละเอียด เพื่อให้การฉีดเมโสแฟตนั้นตรงตามความต้องการมากที่สุด